Q: เมื่อมีความคิดในทางลบ ความคิดในทางอกุศล เกิดขึ้นมาจะทําอย่างไรดี?
A: ธรรมชาติของจิตที่มีกิเลสทำให้เศร้าหมอง คือเมื่อมีผัสสะผ่านเข้ามาจะทำให้มีกิเลสเกิดขึ้นในช่องทางใจ แสดงออกมาเป็นราคะ โทสะ โมหะ อย่างใดอย่างหนึ่ง กิเลสจะเอาสองทางเสมอ คืออยากได้มาก (ภวตัณหา) และอีกข้างหนึ่งคืออยากให้ไม่มี (วิภวตัณหา) เราจึงต้องฝึกตั้งสติให้มีกำลังด้วยการเจริญสติปัฎฐาน 4 และอนุสติ 10 และฝึกเห็นตามความเป็นจริง ทั้งนี้ จิต ความคิด ใจ เป็นคนละอย่างกัน เราต้องเลือกให้จิตของเราคิดหรือไม่คิดได้ ถ้าสติเรามีกำลังมากขึ้น ๆ เราเห็นโทษของความเพลิน จิตที่มีกำลังสติจะเป็นเกราะให้ความคิดอยู่ในกุศลธรรม มันจะทำให้ความคิดที่ผ่านเข้า-ออกถูกป้องกัน ถูกกำจัด ให้อยู่ในกุศลธรรมได้ดีมากขึ้น

Q: โลกียฌานกับโลกุตรฌานเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
A:  เหมือนกันตรง ฌานของทั้ง 2 อย่าง ต้องใช้สมาธิเหมือนกัน ต่างกันตรง “โลกิยะ” ยังเกี่ยวเนื่องด้วยโลก ของหนัก อาสวะ มีทั้งสัมมาสมาธิและมิจฉาสมาธิ, ส่วน “โลกุตรฌาน” คือ นำสมาธินั้นมาใช้ให้อยู่ในลักษณะเหนือบุญเหนือบาป คือการเพ่งเห็นโดยความเป็นของปฏิกูล เห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เห็นตามอริยะสัจสี่ แบบนี้คือจะไปสู่ระดับเหนือโลก พ้นจากโลก เป็น “สัมมาสมาธิ”

Q: จิตตั้งมั่น = สติสัมปชัญญะ = สติปัฏฐาน 4 ความเข้าใจนี้ถูกต้องหรือไม่?
A: สมาธิ คือ จิตที่ตั้งมั่น จิตที่เป็นอารมณ์อันเดียว ต้องอาศัยสติ มีสัมมาสติแล้วจึงจะมี สัมมาสมาธิได้ สติปัฎฐานสี่คือกาย เวทนา จิต ธรรม คือสัมมาสติ สัมมาสติจะทำให้เกิด สัมมาสมาธิ “สติสัมปชัญญะ” นัยยะแรก คือสติกับสัมปชัญญะ คือความรู้ตัวรอบคอบในทุกอิริยาบถ อีกนัยยะหนึ่งคือสติกับปัญญา คือสติปัญญา สติปัญญาจึงคือสติสัมปชัญญะ จะมีสติปัญญาได้ก็ต้องอาศัยสมาธิ มันก็จึงรวมเป็นก้อนเดียว มหาสติ มหาปัญญา อยู่ในสติสัมปชัญญะ


Tstamp

[01:20] เมื่อมีความคิดในทางลบ ความคิดในทางอกุศล เกิดขึ้นมาจะทําอย่างไรดี?
[41:18] โลกียฌานกับโลกุตรฌานเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
[47:18] จิตตั้งมั่น = สติสัมปชัญญะ = สติปัฏฐาน 4 ความเข้าใจนี้ถูกต้องหรือไม่?