หมวดข้อธรรม 8 ประการ ใน สติวรรค หมวดว่าด้วยสติสัมปชัญญะ
ข้อที่ 81 สติสัมปชัญญสูตร ว่าด้วยผลแห่งสติสัมปชัญญะ กล่าวถึงธรรมที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย โดยมี “สติสัมปชัญญะ” เป็นตัวตั้งต้นแล้วมีผลของธรรมอย่างอื่นตามมา โดยแสดงแยกเป็น 2 ลักษณะที่ตรงกันข้ามกัน คือ “เมื่อไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงไม่มี และ เมื่อมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงมี” โดยมีลำดับของธรรมดังนี้ 1. สติสัมปชัญญะ -> 2. หิริและโอตตัปปะ -> 3. อินทรียสังวร -> 4. ศีล -> 5. สัมมาสมาธิ -> 6. ยถาภูตญาณทัสสนะ -> 7. นิพพิทาและวิราคะ -> 8. วิมุตติญาณทัสสนะ
เมื่อเหตุคือไม่มีสติสัมปชัญญะ -> ผลจึงไม่มี หิริและโอตตัปปะ … ฯลฯ “เปรียบได้กับต้นไม้ที่มีกิ่งและใบวิบัติแล้ว สะเก็ด เปลือก กระพี้ แก่น ของต้นไม้นั้น ย่อมไม่ถึงความบริบูรณ์”และในทางตรงข้าม เมื่อเหตุแห่งความบริบูรณ์มี ผลแห่งความบริบูรณ์ย่อมมี
ข้อที่ 82 ปุณณิยสูตร ว่าด้วยพระปุณณิยะ โดยปรารภท่านพระปุณณิยะที่ได้กราบทูลถามพระผู้มีพระภาคถึง “อะไรหนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้พระธรรมเทศนาแจ่มแจ้งในบางคราว แต่ในบางคราวกลับไม่แจ่มแจ้ง” พระองค์ได้ทรงแสดงถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้พระธรรมเทศนาไม่แจ่มแจ้งไว้ดังนี้
- เป็นผู้มีศรัทธา แต่ไม่เข้าไปหา
- เป็นผู้มีศรัทธา และเข้าไปหา แต่ไม่เข้าไปนั่งใกล้
- เป็นผู้มีศรัทธา..ฯ และเข้าไปนั่งใกล้ แต่ไม่สอบถาม
- เป็นผู้มีศรัทธา…ฯและสอบถาม แต่ไม่เงี่ยโสตฟังธรรม
- เป็นผู้มีศรัทธา….ฯ และเงี่ยโสตฟังธรรม แต่ไม่ทรงจำธรรมไว้ได้
- เป็นผู้มีศรัทธา…..ฯ และทรงจำธรรมไว้ได้ แต่ไม่พิจารณาเนื้อความแห่งธรรม
- เป็นผู้มีศรัทธา……ฯ และพิจารณาเนื้อความแห่งธรรม แต่หาใช่รู้อรรถรู้ธรรม
- เป็นผู้มีศรัทธา…….ฯ และรู้อรรถรู้ธรรม แต่ไม่ปฏิบัติสมควรแก่ธรรม
และได้ทรงแสดงถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้พระธรรมเทศนาแจ่มแจ้งไว้ดังนี้ คือ (1.) เป็นผู้มีศรัทธา -> (2.) เข้าไปหา -> (3.) เข้าไปนั่งใกล้ -> (4.) สอบถาม -> (5.) เงี่ยโสตฟังธรรม -> (6.) ทรงจำธรรมไว้ -> (7.) พิจารณาเนื้อความแห่งธรรม -> (8.) รู้อรรถรู้ธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ข้อที่ 83 มูลกสูตร ว่าด้วยมูลเหตุแห่งธรรมทั้งปวง กล่าวถึงต้นกำเนิดของธรรมทั้งปวงมีอะไรบ้าง
1. มีฉันทะ (ศรัทธา) เป็นมูล (รากพื้นฐาน)
2. มีมนสิการ (คิดตามแบบอริยสัจสี่) เป็นแดนเกิด
3. มีผัสสะเป็นเหตุเกิด
4. มีเวทนา (สัญญา->เวทนา) เป็นที่ประชุม (รวมลง)
5. มีสมาธิเป็นประมุข (หัวหน้า-สั่งการ)
6. มีสติเป็นใหญ่ (อธิบดี-มีอยู่ตลอด)
7. มีปัญญา (เห็นไตรลักษณ์) เป็นยิ่ง (ยอดสูงสุด)
8. มีวิมุตติเป็นแก่น
ข้อที่ 84 โจรสูตร ว่าด้วยเหตุเสื่อมของมหาโจร กล่าวถึงธรรม 8 ประการที่เป็นเหตุเสื่อมและไม่เสื่อมของโจร
- เหตุเสื่อมของโจร คือ 1. ทำร้ายคนที่ไม่โต้ตอบ 2. ปล้นสิ่งของจนไม่เหลือ 3. ฆ่าผู้หญิง 4. ข่มขืนเด็กหญิง 5. ปล้นนักบวช 6. ปล้นท้องพระคลัง 7. ปล้นใกล้ถิ่นเกินไป 8. ไม่ฉลาดในการเก็บ
- เหตุไม่เสื่อมของโจร – กล่าวตรงกันข้ามกับที่ได้กล่าวมา
ข้อที่ 85 สมณสูตร ว่าด้วยพระนามของพระพุทธเจ้า กล่าวถึงคำที่แสดงถึงพระนามของพระพุทธเจ้า ได้แก่ สมณะ (ผู้สงบ) พราหมณ์ (ลอยบาป) เวทคู (บรรลุความรู้) ภิสักกะ (หมอ) นิมมละ (สะอาด) วิมละ (ปราศจากมลทิน) ญาณี (ฉลาด) และวิมุตตะ
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต สติวรรค
Tstamp
[04:02] สติสัมปชัญญสูตร ว่าด้วยผลแห่งสติสัมปชัญญะ
[11:12] ปุณณิยสูตร ว่าด้วยพระปุณณิยะ
[23:50] มูลกสูตร ว่าด้วยมูลเหตุแห่งธรรมทั้งปวง
[42:54] โจรสูตร ว่าด้วยเหตุเสื่อมของมหาโจร
[53:54] สมณสูตรว่าด้วยพระนามของพระพุทธเจ้า