สูตร 1 # อัคคิกขันโธปมสูตร พระผู้มีพระภาคเสด็จเดินทางไกลไปในแคว้นโกศล พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ได้ทอดพระเนตรเห็นกองไฟใหญ่ที่กำลังลุกโชนโชติช่วงอยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง เสด็จแวะลงข้างทางประทับนั่งบนพุทธอาสน์ ณ โคนไม้ต้นหนึ่ง จึงตรัสถามเหล่าภิกษุด้วยอุปมา 7 อย่าง และให้โอวาทแก่เหล่าภิกษุว่าการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะมิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อบริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธาจะดีอย่างไร การที่บุรุษมีกำลัง เอาขอเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงเกี่ยวปากอ้าไว้ แล้วกรอกก้อนเหล็กแดงเข้าในปากก้อนเหล็กแดงนั้นจะพึงไหม้ริมฝีปาก แล้วออกทางทวารเบื้องต่ำนี้ดีกว่าเพราะผู้นั้นพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีลบริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธาย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์เพื่อทุกข์สิ้นกาลนานแก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เมื่อตรัสให้โอวาทจบมีพระภิกษุจำนวน 60 รูป กระอักเป็นเลือดและได้บอกคืนสิกขากลับเป็นคฤหัสถ์ และพระภิกษุอีกประมาณ 60 รูปมีจิตหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย

สูตร 2 #ปฐมโยธาชีวสูตร ได้ให้โอวาทเรื่องนักรบอาชีพ 5 จำพวก คือ ที่หวั่นไหวต่อการเข้าสนามรบเมื่อเห็นฝุ่นฟุ้ง เห็นยอดธงของข้าศึก เสียงกึกก้องของข้าศึก การประหารของข้าศึก และนักรบอาชีพที่ไม่หวั่นไหวต่อการเห็นฝุ่นฟุ้ง เห็นยอดธง เสียงกึกก้อง และการประหารของข้าศึกซึ่งเป็นผู้ชนะสงคราม โดยเปรียบภิกษุในธรรมวินัยเหมือนนักรบอาชีพ และเปรียบข้าศึกเหมือนหญิงสาวที่ไม่ว่าจะได้พบเจอ ในลักษณะหรือเหตุการณ์ใดก็ตาม แต่หากจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีกิเลส ปราศจากความเศร้าหมอง อ่อน เหมาะแก่การใช้งาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ น้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า ‘นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา’เมื่อเธอรู้ เห็นอยู่อย่างนี้ จิตย่อมหลุดพ้นจากกามาสวะ ภวาสวะและอวิชชาสวะ

สูตร 3 # ทุติยโยธาชีวสูตร ได้ให้โอวาทเรื่องนักรบอาชีพ 5 จำพวก คือที่ถูกข้าศึกฆ่าตาย บาดเจ็บเสียชีวิตระหว่างทางบาดเจ็บเสียชีวิตระหว่างการรักษา บาดเจ็บและรักษาหาย และนักรบอาชีพผู้พิชิตสงคราม โดยเปรียบภิกษุในธรรมวินัยเหมือนนักรบอาชีพที่ไม่รักษากายวาจาใจ มีสติไม่ตั้งมั่น ทำให้ถูกราคะครอบงำ แต่หากภิกษุในธรรมวินัยสำรวมอินทรีย์ ละอภิชฌา ละนิวรณ์5 เปรียบเหมือนนักรบอาชีพนักรบอาชีพนั้นถือดาบและโล่ผูกสอดธนูและแล่งแล้วเข้าสู่สมรภูมิ เขาชนะสงครามนั้นแล้ว เป็นผู้พิชิตสงคราม


Tstamp

[28:49] ว่าด้วยนักรบอาชีพ สูตรที่ 1
[47:36] ว่าด้วยนักรบอาชีพ สูตรที่ 2