ความเลื่อมใส (ศรัทธา )ที่เรามีอย่างถูกต้องในคุณของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ แม้จะมีเหตุปัจจัยเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม เราก็ย่อมทำการปฏิบัติของเราให้เจริญและงดงามได้ เพราะด้วยศรัทธาที่เราตั้งไว้อย่างถูกต้องแล้ว

#ข้อ241-#244 สูตร 1 เป็นธรรมคู่ตรงข้าม ว่าด้วย โทษของทุจริต ทางกาย วาจา และ ใจ (อกุศลกรรมบถ 10) มีโทษ คือ 1) แม้ตนก็ติเตียนตนเองได้ 2) ผู้รู้ย่อมติเตียน 3) กิตติศัพท์อันชั่วย่อมกระฉ่อนไป 4) หลงลืมสติตาย 5) ตายแล้วไปเกิดในอบาย นรก

#ข้อ245-#248 สูตร 2 จะมีไส้ในเหมือนกับสูตร 1 แต่มีความแตกต่างในตอนท้าย คือไส้ในของข้อที่ 4 เสื่อมจากสัทธรรม และข้อที่ 5 ตั้งอยู่ในอสัทธรรม

#ข้อ249_สีวถิกสูตร ว่าด้วยป่าช้า เป็นธรรมที่อุปมาอุปไมยป่าช้ากับคน คือ บุคคลที่ประกอบด้วยอกุศลกรรมบถ 10 ย่อมไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น (ชื่อเสีย) มีภัย (ไม่อยากอยู่ด้วย) เป็นที่อยู่ของอมนุษย์ (คนไม่ดีมาอยู่รวมกัน) เป็นที่คร่ำครวญของคนหมู่มาก (หมดอาลัย)

#ข้อ250_ปุคคลัปปสาทสูตร ว่าด้วยความเลื่อมใสเฉพาะบุคคล เมื่อความเลื่อมใสเกิดขึ้นกับเฉพาะบุคคลย่อมมีโทษ คือ เมื่อบุคลที่เราเลื่อมใสถูกยกวัตร ถูกสั่งให้นั่งท้าย ย้ายไปที่อื่น ลาสิกขา หรือทำกาละ จึงไม่เลื่อมใส ไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ได้ฟังธรรม เป็นเหตุให้เสื่อมจากพระสัทธรรม

พระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 14 [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ทุจจริตวรรค


Tstamp

[05:32] ปฐมทุจจริตสูตร ว่าด้วยทุจริต สูตรที่ 1
[10:00] ว่าด้วยกายทุจริต วจีทุจริต และ มโนทุจริต สูตรที่ 1
[25:14] ทุติยทุจจริตสูตร ว่าด้วยกายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต สูตรที่ 2
[29:24] สีวถิกสูตร ว่าด้วยป่าช้า
[43:45] ปุคคลัปปสาทสูตร ว่าด้วยความเลื่อมใสเฉพาะบุคคล