Q1: การเมตตาต่อคนในครอบครัว
A: ให้แสดงออกซึ่งความรักต่อคนในครอบครัวให้ตรงกันทั้งกาย วาจา ใจ
– ให้ใช้เครื่องมือของพรหมวิหาร คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
– อย่าโฟกัสในจุดที่มีปัญหา ให้โฟกัสในจุดที่ดี การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้นได้ 

Q2: คำว่า “นมัสการ” ใช้กับใคร
A: คำว่า “นมัสการ” ใช้ได้กับนักบวช รวมถึงแม่ชีด้วย 

Q3: อินทรีย์ 5
A: อินทรีย์ 5 = ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
– ความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม ต้องพัฒนาอินทรีย์ 5 ให้มีกำลัง

Q4: ปี 2568 เน้นเรื่องการทำสมาธิ
A: การทำสมาธิต้องฝึก  
– อุปมาเรื่อง “แม่โคปีนภูเขา” 

Q5: คนใจร้อน สมองช้า ฟังธรรม
A: กิเลส (ราคะ โทสะ โมหะ) เป็นตัวบีบคั้น ทำให้จิตใจตัวเราไม่เป็นตัวเอง ตกเป็นทาสของกิเลส 
– สติ ทำให้ไม่ตกเป็นทาสของกิเลส
– คนสมองช้า ยิ่งเรียนรู้ธรรมได้ดี เพราะสามารถมีสติ สังเกตได้ดี สามารถแยกแยะกิเลสออกจากจิตได้ ความใจร้อนก็จะลดลง กิเลสก็จะลดลง 

Q6: ฝึกทำสมาธิได้บ้าง หลุดบ้าง
A: การระลึกถึงพุทโธ ธัมโม สังโฆ นำไปสู่ความสำเร็จในการทำสมาธิได้
– พุทโธ = การมีศรัทธาในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ท่านทำสำเร็จมาก่อนแล้ว
– ธัมโม (กระบวนการ) = วิธีทำจิตให้สงบ คือ การมีสติ สมาธิ ศีล สำรวมอินทรีย์ รู้ประมาณในการบริโภค
– สังโฆ (ลงมือปฏิบัติ) = มีผู้ลงมือปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าสำเร็จแล้ว

Q7: สมาทานศีล 
A: ศีล คือ ความเป็นปกติ 
– สมาทานศีล คือ การตั้งเจตนาในการรักษาศีล

Q8: พระบอกให้ใส่บาตร
A: ถ้าเคยปวารณา (ออกตัวให้ขอได้) ต่อพระรูปนั้นไว้ ท่านก็ขอได้

Q9: เทคนิคการทำสมาธิด้วยจินตนาการ
A: องค์ประกอบของฌาน 1 คือ วิตก วิจารณ์ ปีติ และสุข
– การจินตนาการนึกถึงภาพพระพุทธเจ้านั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นโพธิ์ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา (วิตก=ความตริตรึกที่ไม่มีกามพยาบาทเบียดเบียน) มีรายละเอียดอย่างไร เช่น มีแมลงบิน ลมพัด พระอาทิตย์อยู่ตรงไหน (วิจารณ์) เมื่อนึกถึงแล้วเกิดความอิ่มเอิบใจ ความสบายใจ (ปีติ) และเกิดความสุขที่เกิดจากปีตินั้น (สุข) ถือว่าครบองค์ประกอบของฌาน 1 แล้ว
– โดยสรุป: การที่เราจินตนาการตริตรึกในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยกาม พยาบาท เบียดเบียน แล้วเกิดความอิ่มเอิบใจ ความสบายใจ นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้สมาธิเกิดขึ้น เราสามารถเลือกเรื่องที่ต้องการคิดได้ เรื่องไหนที่ไม่อยากคิดก็ไม่คิดได้ ลักษณะนี้เรียกว่าเป็น “ผู้ที่มีอำนาจเหนือจิต” 

Q10: การถ่อมตัว
A: หลักธรรมะ: เราจะไม่มัวเพ่ง (โทษ) ดูผู้อื่น แต่จะเพ่งดูตัวเอง
– ถ้าจะดูผู้อื่นให้ดูที่ความดีของเขา 
– เราไม่มองใครโดยความเป็นศัตรูเลย จะมองดูผู้อื่นด้วยสายตาแห่งความเป็นมิตร ก็จะมีการพัฒนาได้อย่างเต็มที่
– การฟังธรรมแล้วจดบันทึกไว้เป็นข้อดี

Q11: ขณะเดินจงกรมเห็นตัวเองไม่มีความคิด
A: ในอิริยาบถเดิน การที่ไม่คิดอะไรแสดงว่าไม่มีวิตกวิจารณ์ แล้วจิตใจมีความเบาสบายแสดงว่ามีปีติสุข มีความสุขที่เกิดจากความอิ่มเอิบใจ ความสบายใจ แสดงว่ามีสติสมาธิ ให้ฝึกทำบ่อย ๆ ในทุก ๆ อิริยาบท สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ “ปัญญา”


Tstamp

[01:45] เมตตาต่อคนในครอบครัว
[07:20] คำว่า “นมัสการ” ใช้กับใคร
[09:35] อินทรีย์ 5
[14:10] ปี 2568 เน้นเรื่องการทำสมาธิ
[18:38] คนใจร้อน สมองช้า ฟังธรรม
[24:15] ฝึกสมาธิได้บ้าง หลุดบ้าง
[29:35] สมาทานศีล
[37:02] พระบอกให้ใส่บาตร
[42:42] เทคนิคการทำสมาธิด้วยจินตนาการ
[49:35] การถ่อมตัว
[38:51] น้อมจิตอย่างไรให้กายจิตระงับ?
[53:35] เดินจงฺกมแล้วไม่มีความคิด