โลกธรรม 8 เป็นสิ่งที่มีปรากฎอยู่บนโลกและอยู่คู่กับโลกเป็นธรรมดา มีลักษณะครอบงำสัตว์โลกให้ยินดีหรือยินร้ายไปตามกระแสของโลก ประกอบด้วย 8 ประการ ได้แก่ 1) ลาภ 2) เสื่อมลาภ 3) ยศ 4) เสื่อมยศ 5) นินทา 6) สรรเสริญ 7) สุข 8) ทุกข์ โดยใน

#5_ปฐมโลกธัมมสูตร_ว่าด้วยโลกธรรม สูตรที่ 1 ในคาถาท้ายพระสูตรได้กล่าวถึง โลกธรรม 8 เป็นสิ่งธรรมดาที่มีอยู่ในมนุษย์ ล้วนมีความไม่เที่ยง ผู้ใดมีปัญญาเห็นตามความเป็นจริงแล้ว ย่อมไม่ยึดถือหรือยินดียินร้ายไปตาม จิตจึงไม่ถูกโลกธรรมย่ำยี่หรือครอบงำ เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน

#6_ทุติยโลกธัมมสูตร_ว่าด้วยโลกธรรม สูตรที่ 2 มีความหมายเดียวกันกับพระสูตรที่ 1 แต่ได้ยกอธิบายความแตกต่างระหว่างปุถุชนผู้ยังไม่ได้สดับและอริยสาวกผู้ได้สดับซึ่งจิตของอริยสาวกผู้ได้สดับจะรู้ชัดตามความเป็นจริงจิตจึงไม่ถูกครอบงำด้วยโลกธรรม 8

#7_เทวทัตตวิปัตติสูตร_ว่าด้วยวิบัติของพระเทวทัต ได้ปรารภเทวทัตถูกอสัทธรรม 8 ประการครอบงำจิต จึงต้องไปเกิดในอบาย นรก ดำรงอยู่ชั่วกัป แก้ไขไม่ได้ เพราะทำสงฆ์ให้แตกกันเป็นอนันตริยกรรม อสัทธรรม 8 ประการได้แก่ ถูกลาภ-ความเสื่อมลาภ ยศ-ความเสื่อมยศ การสักการะ-เสื่อมสักการะ ปรารถนาชั่วและมีมิตรชั่วครอบงำจิต

#8_อุตตรวิปัตติสูตร_ว่าด้วยพระอุตตระแสดงธรรมเรื่องวิบัติ ข้อธรรมเหมือนกับเทวทัตตวิปัตติสูตร แต่เป็นเรื่องราวของท่านพระอุตตระได้แสดงธรรมถึงความวิบัติและสมบัติโดยได้ยกเคสของพระเทวทัตที่วิบัติเพราะถูกอสัทธรรม 8 ประการครอบงำจิต

*ประเด็น ความวิบัติหรือสมบัติไม่ได้ดูจาก สุข หรือ ทุกข์ แต่ดูได้จากเมื่ออยู่กับโลกธรรมแล้วเห็นตามความเป็นจริงได้หรือไม่ คือ เห็นสุขหรือทุกข์เป็นของไม่เที่ยง แล้ววางความยึดถือในโลกธรรมนั้น จิตจะพ้นจะอยู่เหนือโลกธรรม

พระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 15 [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต เมตตาวรรค


Tstamp

[04:59] ปฐมโลกธัมมสูตร ว่าด้วยโลกธรรม สูตรที่ 1
[14:24] ทุติยโลกธัมมสูตร ว่าด้วยโลกธรรม สูตรที่ 2
[25:15] เทวทัตตวิปัตติสูตร ว่าด้วยวิบัติของพระเทวทัต
[43:28] อุตตรวิปัตติสูตร ว่าด้วยพระอุตตระแสดงธรรมเรื่องวิบัติ