มหาสุทัสสนสูตร (ตอนที่ 2) พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงดำริว่า เหตุที่ทรงมีฤทธิ์มากอย่างนี้ มีอานุภาพมากอย่างนี้ในเวลานี้ เป็นผลเป็นวิบากแห่งกรรม 3 อย่าง คือ (1) การให้ (2) การข่มใจ (3) การสำรวม จึงทรงบำเพ็ญฌาน ได้บรรลุฌานที่ 1 ถึงฌานที่ 4 , ทรงเจริญพรหมวิหาร 4

จากนั้นเวลาล่วงไปหลายพันปี พระนางสุภัทราเทวีเป็นนางแก้ว ได้เสด็จมาเฝ้า ทรงเห็นว่าพระสวามีจะทรงสวรรคต จึงทรงขอร้องให้อยู่ต่อเพื่อเห็นแก่สมบัติ เห็นแก่ชีวิต แต่กลับตรัสตอบขอให้พระเทวีทรงขอร้องใหม่ในทางตรงกันข้าม เพราะการพลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นของธรรมดา การตายของผู้มีความกังวล ห่วงใย เป็นทุกข์ และถูกติเตียน พระเทวีก็ทรงกรรเเสง และทรงตรัสขอร้องใหม่ ตามที่พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงแนะนำนั้น และต่อมาไม่นาน พระเจ้ามหาสุทัสสนะก็สวรรคต เพราะทรงเจริญพรหมวิหาร 4 ประการ หลังจากสวรรคตแล้วจึงไปเกิดในพรหมโลก พระพุทธเจ้าทรงสรุปว่าพระเจ้ามหาสุทัสสนะสมัยนั้น คือพระองค์เอง และทรงชี้ให้เห็นสัจธรรมว่า แม้ทรงพรั่งพร้อมสมบูรณ์ด้วยสมบัตินานาประการ แต่ก็ทรงใช้สอยเพียงบางส่วนเท่านั้น และทรงตรัสว่า สังขารเหล่านั้นทั้งปวงล่วงลับดับไป ผันแปรไปแล้ว สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายไม่ยั่งยืน สังขารทั้งหลาย ไม่น่ายินดี ข้อนี้จึงควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรจะหลุดพ้นไปจากสังขารทั้งปวงโดยแท้


Tstamp

[04:38] ธรรมปราสาทและสระโบกขรณี
[14:57] สวนตาลและสระธรรมะโบกขรณี
[22:28] ทรงเจริญฌาณสมาบัติ
[26:42] ทรงมีเมืองขึ้น 84000 เมือง / พระนางสุภัทราเทวีเข้าเฝ้า
[39:39] พระเจ้ามหาสุทัสสนทรงเกิดความสังเวช
[48.09] พระผู้มีพระภาคทรงสรุปพระธรรมเทศนา