เกวัฎฎสูตร สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ สวนมะม่วงของปาวาริกเศรษฐี เขตเมืองนาลันทา เกวัฏฏ์ คฤหบดีบุตร ได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค ได้ขอให้พระผู้มีพระภาคให้ภิกษุสักรูปหนึ่งแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ชาวเมืองนาลันทาชมเพื่อให้มีความเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคมากยิ่งขึ้น พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสเทศนาว่า พระองค์มิได้สอนธรรมเพื่อให้ภิกษุแสดงปาฏิหาริย์แก่คฤหัสถ์ แล้วทรงชี้แจงว่า ทรงรู้แจ้งปาฏิหาริย์ 3 อย่างคือ

(1) อิทธิปาฏิหาริย์ (การแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง) (2) อาเทสนาปาฏิหาริย์ (การทายใจผู้อื่นได้อย่างอัศจรรย์) (3) อนุสาสนีปาฏิหาริย์ (การสั่งสอนได้อย่างอัศจรรย์) จากนั้นทรงแสดงอนุสาสนีปาฏิหาริย์ให้เกวัฏฏะฟัง คือทรงแสดงผลของศีล 3 ชั้น ผลของฌาน 4 และวิชชา 8 ในตอนท้ายทรงเล่าเรื่องภิกษุรูปหนึ่งต้องการทราบว่ามหาภูตรูป 4 ดับสนิทในที่ใด จึงเข้าสมาธิไปเที่ยวถามพวกเทวดาในเทวโลกทุกๆ ชั้นก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงไปเที่ยวถามพวกเทพที่เป็นพรหมบริษัทในพรหมโลกจนได้เข้าพบท้าวมหาพรหมที่อ้างว่าเป็นผู้สร้างโลก ท้าวมหาพรหมได้บอกภิกษุรูปนั้นไปว่า ไม่มีใครรู้ นอกจากพระพุทธเจ้า ภิกษุรูปนั้นจึงกลับมาเฝ้าพระผู้มีพระภาค ทูลถามข้อข้องใจนั้น พระองค์ตรัสตอบว่า ดับสนิทในจิตของพระอรหันต์

Tstamp

[05:54] ปาฏิหาริย์ 3 อย่าง – อิทธิปฏิหาริย์ อาเทสนาปฏิหาริย์ อนุสาสนีปาฏิหาริย์
[45:14] ภิกษุแสวงหาความดับของมหาภูตรูป 4
[50:46] อุปมาด้วยนกตีรทัสสี

Quote

ดิน น้ำ ไฟ ลม ตั้งอยู่ไม่ได้ในวิญญาณ(พระนิพพาน) ความยาวความสั้น ละเอียดและหยาบ งามและไม่งาม ตั้งอยู่ไม่ได้ในวิญญาณ ดังนั้นนามและรูป ย่อมดับสนิทในวิญญาณ เพราะวิญญาณดับไปนามและรูปนั้นก็ย่อมดับสนิทในที่นั้น/ เกวัฎฎสูตร