โลหิจจพราหมณ์ผู้มีทิฎฐิ คือ มีความเห็นผิดที่ไม่เห็นถูกต้อง หลังจากได้ฟังธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงการจำแนก แยกแยะประเภทของศาสดาที่ควรถูกทักท้วง 3 ประเภท และศาสดาที่ไม่สมควรถูกทักท้วง โดยได้ทรงแสดงให้เห็นว่าศาสดาที่สาวกได้บรรลุคุณธรรมอันวิเศษยอดเยี่ยมเป็นที่ประจักษ์นั้นไม่สมควรถูกทักท้วง ได้ทรงอธิบายการบรรลุคุณธรรมอันวิเศษต้องเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล การสำรวมอินทรีย์ ฌาณ และวิชชา(ความรู้แจ้ง ความรู้วิเศษ) 8 ประการ ประกอบด้วย วิปัสสนาญาณ มโนมยิทธิญาณ อิทธิวิธญาณ ทิพยโสตญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ทิพพจักขุญาณ และอาสวักขยญาณ เมื่อทรงแสดงพระธรรมเทศนาจบแล้วโลหิจจพราหมณ์กราบทูลสรรเสริญพระธรรมเทศนา แสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต

อ่าน “โลหิจจสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค

ฟัง “ความเห็นผิด-โลหิจจสูตร(1) [6702-4S]”

[24.28] วิปัสสนาญาณ
[27.49] มโนมยิทธิญาณ
[30.42] อิทธิวิธญาณ
[33.49] ทิพพโสตญาณ
[36.01] เจโตปริยญาณ
[39.10] ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
[44.02] ทิพพจักขุญาณ
[49.27] อาสวักขยญาณ