Q : ทำไมเวลาสวดมนต์ทำวัตรเช้าจึงน้ำตาไหล และเวลานั่งสมาธิก็จะเห็นแสงสีเหลือง ๆ เต็มไปหมด

A : น้ำตาไหลเป็นอาการของปิติ เป็นการปรุงแต่งทางกายอย่างหนึ่ง ซึ่ง การปรุงแต่งจะมีอยู่ 3 ช่องทางคือ ทางกาย (กายสังขาร) ทางวาจา (วจีสังขาร)และทางใจ (จิตตสังขารหรือมโนสังขาร) ซึ่งแต่ละคน การปรุงแต่งก็จะแตกต่างกันไป ที่สำคัญ คือ เมื่อมีอาการปรุงแต่งไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจาหรือใจ ให้เรา “มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม มีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก รู้พร้อมเฉพาะซึ่งการปรุงแต่งทางกาย หายใจเข้า หายใจออก” คือ ไม่เผลอ ไม่เพลิน ไม่นึกคิดไปตามการปรุงแต่งทางกายนั้น ให้มีสติ อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่เราใช้เป็นเครื่องมือนั้น ในที่นี้คือ ลมหายใจ แล้วการปรุงแต่งทางกายก็จะงับลง จิตก็จะละเอียดลง จากปิติ เป็นสุข เป็นอุเบกขาได้

Q : การเข้าทรง ทรงเจ้า เกิดจากอะไร?

A : ในพระไตรปิฏก มีกล่าวถึงอมนุษย์เข้าสิง คำว่า “อมนุษย์” เมื่อแปลเป็นภาษาไทย คือ ผี แต่จริง ๆ แล้ว อมนุษย์ นั้นมีหลายประเภท นับตั้งแต่เทวดาจนถึงสัตว์นรก พอเข้าสิงแล้วอาจจะทำให้บุคคลนั้นทำผิดตรงนี้ก็มีและในปัจจุบันที่เป็นเรื่องหลอกลวงก็มี ซึ่งเมื่อมีของปลอมปรากฏขึ้น ของจริงจึงเสื่อมค่าลงไป เพราะคนไม่รู้ว่าสิ่งไหนจริง สิ่งไหนปลอม ทำให้ศรัทธาเสื่อมลงไป ท่านจึงได้พูดถึงหลักธรรมอย่างเดียว คือ สอนเรื่องของทุกข์และวิธีการดับทุกข์ มากที่สุด เพราะสำหรับผู้ที่ยังบริโภคกาม การตรวจสอบคุณวิเศษนั้นตรวจสอบได้ยาก เราควรเอาสาระ ตรงการปฏิบัติและการเข้าใจธรรมะเป็นสำคัญ

Q : การสวดมนต์ทำวัตรเช้าทำวัตรเย็น

A : พึ่งมีมาไม่กี่ร้อยปีมานี้ เป็นการสวดมนต์ คือ การสวด (สัชฌายะ) / พูดตามที่พระพุทธเจ้าสอน เป็นการสวดขึ้นพร้อมกัน (การสังคายนา) หรือมารวมกันอยู่ที่วัด สวดต่อหน้าพระพุทธรูปหรือพระจะแยกกันสวดที่กุฎิ หรือฆราวาสจะสวด ก็สามารถทำได้ เพื่อเป็นการนำคำสอนของท่านมาทบทวน ก็เลยเป็นการสวดมนต์ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น

Q : กดไลน์กดแชร์ธรรมะดี ๆ ให้ ผู้อื่น กลับถูกมองว่าเป็นคนอวดตัวว่าเป็นคนธัมมะธัมโม อย่างนี้เราควรจะทำต่อไปหรือเก็บข้อธรรมะดี ๆ นี้ไว้ในใจคนเดียว ?

A : ให้เรามีเมตตาต่อเขา รู้จักวางเฉย ให้เราปรับจิตเรา ไปตามแบบที่ท่านได้สอนไว้ ปรับวาจาให้เป็นสัมมาวาจา ตั้งมั่นและหนักแน่นในความดี เราจะไม่หยุดทำความดีเพียงเพราะคำพูดของผู้อื่น ให้เราทำความดีต่อไป

Q : การทำบุญให้ได้เป็นประโยชน์สูงคือการสละสุข ?

A : เวลาเราให้ทาน ให้เราตั้งจิตให้ละเอียดมากขึ้น อย่าหวังเอาแค่ผลฉาบฉวย อย่าหวังเอาแค่ชื่อเสียง “การสละสุขพอประมาณ จะได้สุขที่ยิ่งขึ้นไป” จะไปสู่สวรรค์ นิพพานได้


Timeline

[04:18] ทำไมเวลาสวดมนต์ทำวัตรเช้าจึงน้ำตาไหล และเวลานั่งสมาธิก็จะเห็นแสงสีเหลือง ๆ เต็มไปหมด
[24:49] การเข้าทรง ทรงเจ้า เกิดจากอะไร?
[39:35] กดไลน์กดแชร์ธรรมะดี ๆ ให้ ผู้อื่น กลับถูกมองว่าเป็นคนอวดตัวว่าเป็นคนธัมมะธัมโม อย่างนี้เราควรจะทำต่อไปหรือเก็บข้อธรรมะดี ๆ นี้ไว้ในใจคนเดียว
[52:00] การทำบุญให้ได้เป็นประโยชน์สูงคือ การสละสุข