สูตร#1 อังคุลิมาลสูตร พระพุทธเจ้าทรงเสด็จไปโปรดโจรองคุลีมาลซึ่งเป็นมหาโจร ผู้โหดร้าย ตัดนิ้วมือคนที่ตนฆ่าแล้วร้อยเป็นพวงมาลัยสวมคอไว้ สมัยนั้น ทรงออกบิณฑบาต เมื่อโจรองคุลีมาลเห็นพระพุทธเจ้าคิดจะปลงพระชนม์ จึงถือดาบและธนูติดตามไปเบื้องหลัง ทรงบันดาลอิทธาภิสังขารมิให้โจรองคุลีมารตามไม่ทัน องคุลิมาลหยุดยืนและกล่าวว่า “หยุดก่อนสมณะ หยุดก่อนสมณะ” ทรงตรัสว่า “เราหยุดแล้ว องคุลิมาล ท่านต่างหากจงหยุด” โจรองคุลีมาลสงสัยว่า ทรงดำเนินอยู่ แต่กลับตรัสว่าหยุด จึงทูลถามสาเหตุที่ตรัสเช่นนั้น ทรงตรัสว่า ทรงวางอาชญาในสรรพสัตว์ได้แล้วจึงชื่อว่า หยุดแล้วตลอดกาล ส่วนโจรองคุลีมาลไม่สำรวมในสัตว์ทั้งหลายจึงชื่อว่า ไม่หยุด องคุลีมาลรู้ว่าทรงเสด็จมาอนุเคราะห์จึงทิ้งดาบและอาวุธ แล้วทูลขอบรรพชา ต่อมาได้หลีกออกไปอยู่ผู้เดียว บำเพ็ญเพียรจนบรรลุเป็นพระอรหันต์

สูตร#2 ทีฆาวุวัตถุ ว่าด้วย ฑีฆาวุกุมาร พระเจ้าพรหมทัต แห่งนครพาราณสี ยกทัพไปตีพระเจ้าทีฆีติ ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่มีทรัพย์และกำลังพลน้อยกว่า จึงพามเหสีหนีออกมาด้วยการปลอมตัวเป็นปริพาชกแล้วเข้าไปอาศัยอยู่ที่บ้านช่างหม้อที่ชานเมืองแห่งหนึ่งในนครพาราณสี หลังจากนั้น พระมเหสีก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อว่าทีฆาวุราชกุมาร พระเจ้าทีฆีติส่งบุตรชายไปไว้นอกเมือง ด้วยเกรงว่าหากพระเจ้าพรหมทัตรู้ จะสั่งประหารชีวิตทั้งสามพระองค์

ต่อมา พระเจ้าพรหมทัตจับพระเจ้าทีฆีติและภรรยาได้ ก็สั่งให้มัดประจานรอบเมืองแล้วประหารเสีย ทีฆาวุราชกุมารมาเห็นเข้า พระเจ้าทีฆีติกได้ตะโกนสั่งเสียบุตรว่า “พ่อทีฆาวุ เจ้าอย่าเห็นแก่ยาวอย่าเห็นแก่สั้น เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร แต่ระงับได้ด้วยการไม่จองเวร” ภายหลัง ทีฆาวุราชกุมารได้เป็นคนสนิทของพระเจ้าพรหมทัต และมีโอกาสที่จะสามารถฆ่าพระเจ้าพรหมทัตได้ แต่นึกถึงคำสั่งเสียของพ่อ ตัดสินใจไม่ลงมือทำ ได้เล่าความจริงให้พระเจ้าพรหมทัตฟัง ทั้งคู่ให้ชีวิตกันและกัน และพระเจ้าพรหมทัตได้ยกแผ่นดินและทรัพย์สินเดิมของพระเจ้าทีฆีติคืนให้ทีฆาวุราชกุมาร พร้อมทั้งยกธิดาของตนให้อภิเษกสมรสด้วย

อ่าน “อังคุลิมาลสูตร” พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์

อ่าน “ทีฆาวุวัตถุ” พระไตรปิฎกเล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มหาวรรค ภาค ๒


Timeline
[02:17] อังคุลิมาลสูตร
[30:35] ทีฆาวุวัตถุ