ปรารภเรื่องราวการปฏิบัติก่อนเข้าปฏิบัติธรรมของพระเจ้ามหาสุทัสสนะ ที่จะเปล่งวาจาสั่งความคิดในทางกาม ทางพยาบาท และทางเบียดเบียน ไม่ให้ตามเข้าไป การกระทำที่เป็นการแสดงความเคารพในพระพุทธเจ้าจะมีอยู่ 3 ระดับ ตั้งแต่การแสดงออกทางกาย เหมือนที่พระเจ้าพิมพิสารถอดหัวโขนของกษัตริย์ออก การแสดงออกทางวาจา และการแสดงออกทางใจในการที่จะกำจัดกามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก

เมื่อเราจะเริ่มทำความดีมักมีเครื่องทดสอบ ก่อนอื่นเราต้องแยกแยะให้ได้ว่าเครื่องทดสอบนั้นคืออะไร จะแยกได้ก็ด้วยสติ ผัสสะ หรือเครื่องทดสอบนี้สามารถเข้าสู่ช่องทางใจของเราได้ตามประตูทั้ง 6 แต่เราจะอนุญาตให้เข้าสู่จิตได้หรือไม่ก็อยู่ที่ประตูที่สอง คือ สติ ทำให้การรับรู้นั้นเป็นเพียงรู้เฉย หรืออาจจะให้เข้าสู่จิตได้เหมือนอย่างพระพุทธเจ้าท่านก็ต้องรับรู้ก่อนมีความคิดก่อนก่อนที่จะแสดงธรรมนั้น พระพุทธองค์ทรงทำให้เห็นว่าเราสามารถเป็นผู้อยู่เหนือความคิดได้ นำความคิดนั้นมาใช้งานได้

ควรเข้าใจแยกแยะกุศลธรรมหรืออกุศลธรรมให้ถูก ดีหรือไม่ดีไม่ได้ดูที่สุขเวทนาหรือทุกขเวทนา เลือก input ดีๆ เมื่อเข้าใจได้ถูกแล้ว จิตจะมีพลังน้อมมาในกุศลแล้วจะ รวมลงเป็นสมาธิ วิธีการฝึกก็คือ 1. รักษาอวัยวะเหมือนเต่าหดในกระดองก็จะพ้นภัย รับรู้มาก่อนสติ 2. การใช้ลิ่มสลักของช่างไม้ 3. การรู้จักสังเกตุการแต่งตัวของหนุ่มสาว 4. การทำสมาธิทำจิตให้ละเอียดเหมือนความละเอียดของอิริยาบทต่างๆ และ 5. ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ต่อจิตที่มีความหยาบมาก ทำดังนี้จะเป็นผู้อยู่เหนือกามวิตก พยาบาทวิตก และวิหิงสาวิตกได้ในที่สุด ค่อยฝึกไปตามลำดับ


Timeline
[00:14] เจ้าจงหยุด เจ้าจงถอยกลับ
[08:44] ก่อนปฏิบัติธรรมถอดหัวโขนทั้งทางกาย วาจา ใจ
[19:56] ความสัมพันธ์ระหว่างผัสสะ วิญญาณ สติ
[26:54] รับรู้ก่อนจึงมีสติในสิ่งนั้น เหมือนเต่าที่พ้นภัย (วิธีที่ 1)
[29:10] เปิดประตูที่สองด้วยสติ ตั้งสติไว้ตามเครื่องมือ
[38:03] เข้าใจให้ถูก ดีไม่ดี ไม่ใช่สุขหรือทุกข์ เข้าใจแล้วจิตจะเป็นสมาธิ
[42:14] จิตที่เป็นสมาธิจะอยู่เหนือความคิดได้
[50:49] รู้จักพิจารณาแยกแยะ เห็นคุณเห็นโทษ ฝึกตามอีก 4 วิธีที่พระพุทธเจ้าสอน