ถึงเวลาที่จะปลดแอกตัวเราจากความยึดถือได้แล้ว ที่ไปยึดได้ คือ อุปาทาน เพราะเพลินพอใจในสิ่งใด มันติดกับสิ่งนั้นทันที โทษของมันก็มาด้วยเพราะความที่มันไม่เที่ยง จะกำจัดมันก็ละความยึดถือ อย่าให้เกิดความเพลินความพอใจ คือ เห็นโทษในความที่ไม่มีสาระไม่มีแก่นสาร เห็นบ่อย ๆ จะเป็นอุบายเครื่องนำออกจากความยึดถือในสิ่งนั้น แต่ถ้าเห็นโทษอย่างเดียวไม่เห็นรสอร่อยไม่เห็นเหตุเกิดไม่เห็นสิ่งต่าง ๆ ครบถ้วน บางทีไปยึดกับการปฏิเสธทุกอย่างปฏิเสธสิ่งนี้ไม่เอาสิ่งนั้นด่าทอขี้บ่น มันก็ไม่ได้เรื่อง กิเลสมันเอาเราสองทางเสมอ 

สิ่งที่ไม่เป็นสาระ คือ ความที่มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ แปรปรวนได้ แล้วเอาสิ่งที่เป็นสาระ คือ อะไรที่ทำให้เราเห็นความไม่เที่ยง มีปัญญามีสติมีสมาธินั่นคือ มรรค เห็นตามความเป็นจริงโดยความเป็นของไม่เที่ยงของขันธ์ห้า เจริญเกาะอยู่กับมรรคแปด จะทำให้สามารถที่จะเห็นขันธ์ห้าตามความเป็นจริงได้