ขุดเพชรจากพระไตรปิฎก พระมหากัปปินเถระ พระสาคตเถระ พระราธเถระ และพระโมฆราชเถระ (พระไตรปิฎกเล่มที่ 20 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 12: อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค ข้อที่ 231-234)ประวัติความเป็นมาและบุพกรรมในชาติก่อน การบรรลุธรรม ความเป็นเอตทัคคะ และต้นบัญญัติสิกขาบท ของพระภิกษุ 4 รูป  

พระมหากัปปินเถระ เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาทภิกษุ 

เราได้สดับว่า “พระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้ว, พระธรรมอุบัติขึ้นแล้ว, พระสงฆ์อุบัติขึ้นแล้ว’ จักไม่กลับอีก, เราจักอุทิศต่อพระศาสดา ไปบวชในสำนักของพระองค์” 

พระมหากัปปินะ ไม่ว่าท่านจะอยู่ในที่พักหรือที่ใดก็ตามท่านมักจะเปล่งอุทานว่า “สุขหนอ สุขหนอ” อยู่เสมอ ภิกษุทั้งหลายคิดว่าท่านยังรำลึกถึงความสุขในราชสมบัติอยู่ จึงพากันไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์แม้ทรงทราบแล้ว แต่ก็รับสั่งให้พระมหากัปปินะเข้าเฝ้าแล้วตรัสถามเหตุแห่งการเปล่งอุทานให้ได้ยินกันทั่ว ณ ที่นั้น เพื่อคลายความสงสัยแล้วตรัสว่า:-  

“…บุคคลผู้เอิบอิ่มในธรรม มีใจผ่องใส ย่อมอยู่เป็นสุข, บัณฑิตย่อมยินดีในธรรมที่พระอริยเจ้าประกาศแล้วทุกเมื่อ.” 

พระมหากัปปินะได้ให้โอวาทแก่ภิกษุคราวเดียว 1,000 รูป และทั้งหมดบรรลุพระอรหันต์ ได้จึงได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายด้านเป็นผู้ให้โอวาทภิกษุ 

พระสาคตเถระ เอตทัคคะในทางผู้ชำนาญเตโชสมาบัติ 

พระสาคตะ มีความชำนาญเป็นพิเศษในการเข้าเตโชสมาบัติ ครั้งหนึ่งท่านตามเสด็จพระพุทธเจ้ามาถึงท่าเรืออัมพะ หมู่บ้านภัททวติกะ ใกล้พระนครโกสัมพี บริเวณใกล้ ๆ ท่าเรือนั้น มีพญานาคชื่อว่าอัมพติฏฐกะ อาศัยอยู่ ได้บันดาลให้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล พระเถระทราบความเดือดร้อนของชาวบ้านชาวเมืองนั้น จึงได้แสดงฤทธิ์ปราบพญานาคด้วยเตโชธาตุกสิณสมาบัติ ทำฟ้าฝนให้กลับมาตกต้องตามฤดูกาลเช่นเดิม 

ชาวเมืองต่างชื่นชมยินดีพากันเที่ยวเซาะหาสิ่งของที่จะมาถวายพระเถระ พระฉัพพัคคีย์ได้แนะนำว่า “สิ่งที่พระภิกษุชอบที่สุดและหายากที่สุดก็คือ สุราอ่อน ๆ ที่มีสีแดงเหมือนเท้านกพิราบ” ขณะนั้นยังไม่มีพุทธบัญญัติห้ามภิกษุดื่มสุรา พระเถระจึงดื่มสุราที่ชาวเมืองนำมาถวายเพื่อเป็นการรักษาศรัทธา ปรากฏว่าท่านมึนเมาจนหมดสติล้มลงที่ประตูเมือง พระพุทธเจ้าจึงทรงติเตียนและบัญญัติพระวินัยห้ามภิกษุดื่มสุราตั้งแต่บัดนั้นมา  

พระราธเถระ เอตทัคคะในทางผู้ว่าง่ายและมีปฏิภาณแจ่มแจ้ง 

ราธพราหมณ์ มีศรัทธาปรารถนาจะบวช แต่ไม่มีภิกษุรูปใดที่จะสงเคราะห์บวชให้ ทำให้เกิดความทุกข์ใจจนร่างกายร่างกายซูบผอม พระพุทธเจ้าทราบความจึงตรัสถามแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “มีใครระลึกถึงคุณของพราหมณ์นี้ได้ มีอยู่บ้างหรือ?” พระสารีบุตรเป็นผู้กตัญญูกตเวทีระลึกถึงคุณของพราหมณ์ได้ จึงเป็นพระอุปัชฌาย์ให้แก่พระราธะ ซึ่งถือว่าเป็นภิกษุรูปแรกที่ได้รับการอุปสมบทด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรม ที่ได้ถือปฏิบัติสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน 

“ดูก่อนราธะ สิ่งใดเป็นมาร เธอจงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย สิ่งที่เรียกว่ามาร คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ซึ่งเป็นสภาพไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นของมิใช่ตัวตน มีความเกิดขึ้น ดำรงอยู่ เปลี่ยนแปลง และสูญสิ้นไปเป็นธรรมดา ดังนั้น เธอจงละความพอใจในสิ่งอันเป็นมารเหล่านั้นเสีย” พระราธะรับเอาพุทธโอวาทนั้นเป็นแนวทางปฏิบัติด้วยความที่เป็นผู้มีปฏิภาณ มีความรู้แจ่มแจ้งในพระธรรมเทศนา ไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัตผล 

พระพุทธเจ้าทรงตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “ธรรมดาภิกษุควรเป็นผู้ว่าง่ายเหมือนราธะ, แม้อาจารย์ชี้โทษกล่าวสอนอยู่ ก็ไม่ควรโกรธ อนึ่ง ควรเห็นบุคคลผู้ให้โอวาท เหมือนบุคคลผู้บอกขุมทรัพย์ให้ฉะนั้น”  

พระโมฆราชเถระ เอตทัคคะในทางผู้ยินดีในจีวรเศร้าหมอง 

โมฆราชมาณพก็เป็นหนึ่งในจำนวนศิษย์ทั้ง 16 คนของพราหมณ์พาวรี เป็นผู้มีปัญญาดีกว่ามาณพทั้งหมด จึงคิดที่จะทูลถามปัญหาเป็นคนแรก แต่พระพุทธเจ้าตรัสห้ามไว้ จนได้มีโอกาสทูลถามเป็นคนที่ 15 โดยกราบทูลถามว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ โลกนี้ก็ดี โลกอื่นก็ดี พรหมโลกกับทั้งเทวโลกก็ดี ย่อมไม่ทราบความเห็นของพระองค์ เหตุดังนั้น จึงมีปัญหามาถึงพระองค์ ผู้มีปรีชาญาณเห็นล่วงสามัญชนทั้งปวงอย่างนี้ ข้าพระพุทธเจ้า จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร มัจจุราชคือความตายจึงจะไม่แลเห็น คือ จักไม่ตามทัน พระเจ้าข้า” 

พระพุทธองค์ตรัสพยากรณ์ตอบว่า “ดูก่อนโมฆราช ท่านจงมีสติพิจารณาดูโลกโดยเป็นของว่างเปล่า ถอนความเห็นว่าตัวของเราเสียทุกเมื่อเถิด ท่านจะข้ามล่วงมัจจุราชเสียได้ด้วยอุบายนี้ ท่านพิจารณาเห็นโลกอย่างนี้แล้ว มัจจุราชคือความตายจักไม่แลเห็น ” จบการตรัสพยาการณ์ปัญหาโมฆราชมาพได้บรรลุอรหัตตผล 

พระโมฆราชนั้น เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านเป็นผู้มักน้อยสันโดษ ยินดีเฉพาะการใช้สอยจีวรที่เศร้าหมอง 3 ประการ คือ ผ้าเศร้าหมอง, ด้ายเย็บผ้าเศร้าหมอง และน้ำย้อมผ้าเศร้าหมอง ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง ผู้ยินดีในจีวรเศร้าหมอง 

แนะนำรับฟังเพิ่มเติมได้ที่ Playlists: ขุดเพชรในพระไตรปิฎก Ep.18, ตามใจท่าน Ep.54 


Timeline
[11:03] เรื่องราวของพระมหากัปปินะที่เป็นพระราชา
[15:55] พระมหากัปปินะคิดจะไม่ลงปาติโมกข์
[17:35] อธิบายอานาปานสติ
[19:15] เรื่องราวของพระสาคตเถระ
[26:15] พระสาคตะแสดงฤทธิ์ปราบพญานาคที่ดุร้าย
[32:02] เคยเป็นพระอุปฐากของพระพุทธเจ้า
[37:10] เรื่องราวของพระราธะที่เป็นหลวงตา
[41:20] พระสารีบุตรเห็นความดีที่เคยใส่บาตรให้จึงได้บวช
[45:50] บวชด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรมวาจาเป็นรูปแรก
[49:00] เรื่องราวของพระโมฆราช
[52:00] คำถามของมาณพ 16 องค์ที่เป็นศิษย์พาวรีพราหมณ์
[57:56] เหตุที่ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะ