ความเดิมจากตอนที่แล้ว หลังจากพระนางมาคันทิยาได้กลั่นแกล้งใส่ความพระนางสามาวดีพร้อมหญิงบริวารในหลายครั้ง แต่พระนางก็พ้นภัยเหล่านั้นมาด้วยอำนาจของเมตตา  และยังพระเจ้าอุเทนให้มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ยิ่งทำให้พระนางมาคันทิยาเพิ่มความโกรธแค้นมากขึ้นเป็นทวีคูณ 

มาถึงเรื่องราวในตอนจบนี้ เมื่อทำการสิ่งใดก็ไม่เป็นผลสำเร็จ พระนางมาคันทิยาจึงคิดหาอุบายสุดท้ายวางแผนก่อเพลิงเผาตำหนักของพระนางสามาวดี โดยที่พระนางสามาวดีพร้อมหญิงบริวารทั้ง 500 ถูกขังอยู่ภายใน แล้วเผาทั้งเป็น แม้จะเห็นเปลวเพลิงกำลังลุกลามเข้ามาใกล้พระนางสามาวดีก็มิได้ทรงหวั่นไหว กลับรับสั่งให้เหล่าหญิงบริวารตั้งจิตเจริญเมตตา มีสติ ไม่ประมาท มีจิตตั้งมั่นในเวทนาปริคคหกัมมัฏฐาน (กำหนดเวทนาเป็นอารมณ์) อย่างมั่นคง และท้ายที่สุดแม้ทั้งหมดจะจบชีวิตลงในกองไฟก็ไม่สูญเปล่า เพราะต่างก็บรรลุธรรมไปตามลำดับขั้นของตน ๆ บังเกิดแล้วในสุคติโลกสวรรค์ด้วยกันทั้งหมด 

เหตุแห่งการตายนี้สืบเนื่องจากกรรมเก่าเมื่อครั้งอดีตชาติที่พระนางและเหล่าหญิงบริวารทั้ง 500 ได้พากันสุมไฟขึ้นเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ครั้นพอไฟมอดลงจึงทราบว่าพวกนางได้เผาพระปัจเจกพุทธะองค์หนึ่งซึ่งกำลังเข้าสมาธิอยู่ในพงหญ้าไปด้วย เพราะความหวาดกลัวในความผิดนั้น พวกนางจึงช่วยกันสุมไฟอีกครั้งให้แรงยิ่งขึ้นเพื่อจะได้ทำลายหลักฐานก่อนจะพากันกลับเข้าเมือง ผลกรรมในครั้งนั้นทำให้พระนางสามาวดีและเหล่าหญิงบริวารทั้ง 500 ต้องถูกไฟนรกเผาไหม้อยู่หลายพันปีและเมื่อพ้นจากนรกก็ยังต้องถูกเผาทั้งเป็นอีก 100 ชาติ และในชาติปัจจุบันก็ได้ถูกเผาทั้งเป็นด้วยน้ำมือของพระนางมาคันทิยานี่เอง 

พระเจ้าอุเทนเมื่อทราบข่าว ทรงเกิดความสลดพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่พระนางสามาวดีประสบชะตากรรมเช่นนี้ และทรงทราบความที่พระนางมาคันทิยาเป็นผู้กระทำกรรมหนักถึงเพียงนี้ จึงวางอุบายจับและลงโทษพระนางมาคันทิยากับพวก ให้ได้รับผลแห่งกรรมในอัตภาพที่เหมาะสมเช่นกัน    

และด้วยเหตุเหล่านี้ พระพุทธเจ้าจึงได้ยกย่องพระนางสามาวดีไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าอุบาสิกาทั้งหลายในฝ่ายผู้อยู่ด้วยเมตตา      

บทสรุปของซีรีย์ทั้ง 5 ตอน เรื่องของพระนางสามาวดี จะเห็นถึงเรื่องของกรรมและผลของกรรมไม่ว่าจะเป็นกรรมในอดีตชาติหรือกรรมในปัจจุบันย่อมให้ผล และเมื่อฟังเรื่องราวเหล่านี้ให้เรามีปัญญาที่พิจารณาใคร่ครวญเจาะจงมาตรงพระคาถา (พุทธพจน์) ที่ยกขึ้นอธิบายในแต่ละจุด ๆ ของเรื่องที่รับฟัง เช่น ความเป็นผู้ไม่ประมาทของพระนางสามาวดี 

เรื่องพระนางสามาวดี 

“ความไม่ประมาทเป็นเครื่องถึงอมตะ ความประมาทเป็นทางแห่งมัจจุ ผู้ไม่ประมาทแล้ว ชื่อว่าย่อมไม่ตาย ผู้ใดประมาทแล้ว ผู้นั้นย่อมเป็นเหมือนคนตายแล้ว; บัณฑิตรู้ความนั่นโดยแปลกกันแล้ว ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท บันเทิงอยู่ในความไม่ประมาท ยินดีในธรรมเป็นที่โคจรของพระอริยะทั้งหลาย, บัณฑิตผู้ไม่ประมาทเหล่านั้น มีความเพ่ง มีความเพียรเป็นไปติดต่อ, บากบั่นมั่นเป็นนิตย์ เป็นนักปราชญ์ย่อมถูกต้องพระนิพพาน อันเป็นแดนเกษมจากโยคะอันยอดเยี่ยม.” 

แนะนำรับฟังเพิ่มเติมได้ที่ Playlists: นิทานพรรณนา Ep.36, Ep.35 , Ep.34 , Ep.33 



Timeline
[01:20] ทบทวนตอนที่ผ่านมา ความเป็นของพระเจ้าอุเทน และพระมเหสีทั้ง 3
[06:26] พระเจ้าอุเทนมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง
[12:19] พระนางสามาวดีถูกไฟคลอก พระนางมาคันทิยาได้วางแผนเผาพระนางสามาวดีพร้อมบริวารทั้งเป็น
[17:48] พระนางมาคันทิยาถูกลงโทษ หลังจากพระเจ้าอุเทนทราบว่าพระนางมาคันทิยาเป็นผู้ออกอุบายเผาพระนางสามาวดี และบริวารทั้งเป็น จึงสั่งให้ลงโทษพระนางโดยการทอดด้วยน้ำมันอันเดือดพล่าน
[21:43] กรรมเก่าของพระนางสามาวดี เหตุแห่งการถูกไฟเผาทั้งเป็นจนตายของพระนางสามาวดี และบริวาร เนื่องจาก เคยจุดไฟเผาพระปัจเจกพุทธเจ้า
[26:08] กรรมเก่าของนางขุชชุตรา นางเป็นคนหลังค่อมเพราะเคยทำเป็นคนค่อมเลียนแบบพระปัจเจกพุทธเจ้า นางเกิดเป็นคนรับใช้เพราะเคยใช้ให้พระภิกษุณีช่วยหยิบกระเช้าเครื่องประดับให้ นางเป็นผู้มีปัญญามากเพราะได้เคยถวายกำไลข้อมือให้แก่พระปัจเจกพุทธเจ้าไว้ใช้รองบาตรที่ร้อน นางได้บรรลุโสดาปัตติผลเพราะผลแห่งการอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้า
[31:16] พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม เกี่ยวกับความไม่ประมาทเปรียบดังเครื่องมืออมตะ ผู้ที่ไม่ประมาทชื่อว่าย่อมไม่ตาย ดังเช่น พระนางสามาวดีและบริวาร แต่สำหรับผู้ประมาทเปรียบดั่งคนตายแล้ว ดังเช่น พระนางมาคันทิยา