“…ทองคำปลอมยังไม่เกิดขึ้นในโลกตราบใด ตราบนั้นทองคำแท้ก็ยังไม่หายไป และเมื่อใดทองคำปลอมเกิดขึ้นในโลก เมื่อนั้นทองคำแท้จึงหายไปฉันใด สัทธรรมปฏิรูปยังไม่เกิดขึ้นในโลกตราบใด ตราบนั้นสัทธรรมก็ยังไม่เสื่อมสูญไป แต่เมื่อใดสัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้นในโลก เมื่อนั้นสัทธรรมย่อมเสื่อมสูญไป ฉันนั้นเหมือนกัน. 

ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) ทำสัทธรรมให้เสื่อมสูญไปไม่ได้ อาโปธาตุ (ธาตุน้ำ) เตโชธาตุ (ธาตุไฟ) วาโยธาตุ(ธาตุลม) ก็ทำสัทธรรมให้เสื่อมสูญไปไม่ได้ ที่แท้โมฆบุรุษในโลกนี้ ต่างหากเกิดขึ้นมาย่อมทำให้สัทธรรมเสื่อมสูญไป เปรียบเหมือนเรือจะอับปางก็เพราะ ต้นหนเท่านั้น สัทธรรมย่อมไม่เสื่อมสูญไป ด้วยประการฉะนี้.”…สัทธัมมัปปฏิรูปกสูตร ว่าด้วยสัทธรรมปฏิรูป 

เราจึงต้องทำการศึกษา เล่าเรียน ทำความเข้าใจอย่างดีในบทพยัญชนะที่มันปฏิรูปไปแล้วเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ที่มันปรุงแต่งไปแล้ว…แม้ในสิ่งที่ปฏิรูปมาแล้วนั้น ถ้าเราใส่ใจทำความศึกษาให้ดีลึกลงไปในรายละเอียดทั้งส่วนที่เป็นหัวข้อและตัวแม่บท เราจะสามารถแยกแยะของปลอม แยกแยะของจริงได้ โดยไล่มาตั้งแต่เรื่องของคำสอน ไปจนถึงเรื่องของการปฏิบัติ ไปจนถึงเรื่องของผลที่เกิดขึ้น มันมีปลอมมาในทุกระดับ ของปลอมอยู่ตรงไหน ปฏิรูปอยู่ตรงไหน ของจริงคือความถูกต้องก็อยู่ตรงนั้นได้เหมือนกัน เราจะรู้ถึงของจริงโดยการผ่านทางของปลอมนี้ได้เหมือนกัน 

ถ้าเราปฏิบัติให้มันชอบตามสิกขาบทที่พระพุทธองค์ได้ทรงกำหนดไว้ มีความเคารพยำเกรงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในสิกขาบท ในสมาธิ สิ่งนี้จะทำให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้ ให้เรามาช่วยกันรักษาศาสนานี้ที่พระพุทธเจ้าได้ทิ้งเป็นมรดกไว้ให้ จากการแลกมาด้วยเลือดด้วยเนื้อของพระองค์เอง 

“เราจะพบของจริงได้ก็อยู่ในของปลอมนี่แหละ กายของเราที่มันว่าสวยว่างาม ดูจริง ๆ มันสวยงามหรือไม่ ของจริงเราเห็นได้อยู่ในของปลอมนี้ สัทธรรมปฏิรูปเราดูดี ๆ ให้มันเห็นได้ เราจะเห็นสัทธรรมที่แท้จริงได้นั่นเอง” 

สมจิตตวรรคที่ ๔ 

[๒๘๖] …ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพวกที่อนุโลมอรรถและธรรม โดยสูตรซึ่งตนเรียนไว้ดี ด้วยพยัญชนะปฏิรูปนั้น ชื่อว่าปฏิบัติแล้วเพื่อประโยชน์ของชนมาก เพื่อความสุขของชนมาก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุพวกนั้นยังประสพบุญเป็นอันมาก ทั้งชื่อว่าดำรงสัทธรรมนี้ไว้อีกด้วย ฯ 

สุคตวินยสูตร ว่าด้วยพระสุคตและวินัยของพระสุคต 

[๑๖๐] …ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความตั้งมั่น เพื่อความไม่ฟั่นเฟือน เพื่อความไม่เสื่อมสูญแห่งพระสัทธรรม คือภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนพระสูตรอันเรียนกันมาดี ด้วยบทและพยัญชนะอันตั้งไว้ดี แม้อรรถแห่งบทและพยัญชนะที่ตั้งไว้ดี ย่อมมีนัยดีไปด้วยภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย ประกอบด้วยธรรมอันทำให้เป็นผู้ว่าง่าย เป็นผู้อดทน รับคำพร่ำสอนโดยเคารพภิกษุเหล่าใดเป็นพหูสูต เล่าเรียนนิกาย ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ภิกษุเหล่านั้นบอกพระสูตรแก่ผู้อื่นโดยเคารพ เมื่อภิกษุเหล่านั้นมรณภาพลง พระสูตรย่อมไม่ขาดมูลเดิม ยังมีที่พึ่งอาศัยภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพระเถระ เป็นผู้ไม่มักมากไม่ประพฤติย่อหย่อน ทอดธุระในการก้าวลง เป็นหัวหน้าในวิเวก ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง หมู่ชนผู้เกิดมาภายหลังย่อมดำเนินตามอย่างภิกษุเหล่านั้น แม้หมู่ชนผู้เกิดมาภายหลังเหล่านั้น ก็เป็นผู้ไม่มักมาก ไม่ประพฤติย่อมหย่อนทอดธุระในการก้าวลง เป็นหัวหน้าในวิเวก ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง 


อ่าน “สมจิตตวรรคที่ ๔ [๒๘๖] ศึกษาไว้ดีในพยัญชนะปฏิรูป ” พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต

อ่าน “สัทธัมมัปปฏิรูปกสูตร ว่าด้วยสัทธรรมปฏิรูป” พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๘ [มจร.] สังยุตตนิกาย นิทานวรรค

อ่าน “อินทรียวรรคที่ ๑ [๑๖๐] สุคตวินยสูตรว่าด้วยพระสุคตและวินัยของพระสุคต” พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๓ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต


Timeline
[00:23] เริ่มปฏิบัติ: ฝึกเจริญมรณานุสติ เพื่อที่เมื่อถึงวันนั้นเราจะสามารถระลึกได้ถึงบุญกุศลคุณงามความดีที่เราได้กระทำไว้
[13:40] ใต้ร่มโพธิบท: พึงศึกษาให้ดีในสัทธรรมปฏิรูปที่เกิดมีแล้ว
[16:00] สมจิตตวรรคที่ ๔ [๒๘๖] ศึกษาไว้ดีในพยัญชนะปฏิรูป
[23:51] สัทธัมมัปปฏิรูปกสูตร ว่าด้วยสัทธรรมปฏิรูป
[40:43] อินทรียวรรคที่ ๑ [๑๖๐] สุคตวินยสูตร ว่าด้วยพระสุคตและวินัยของพระสุคต
[50:49] สรุป ในยุคที่สัทธรรมปฏิรูปเกิดมีแล้ว ถ้าเราใส่ใจทำความศึกษาให้ดี ทำความเข้าใจลึกลงไปในรายละเอียดทั้งส่วนที่เป็นหัวข้อและตัวแม่บท เราจะสามารถแยกแยะของปลอม แยกแยะของจริงได้ โดยไล่มาตั้งแต่เรื่องของคำสอน ไปจนถึงเรื่องของการปฏิบัติ ไปจนถึงเรื่องของผลที่เกิดขึ้น