ขุดเพชรจากพระไตรปิฎก พระทัพพมัลลบุตรเถระ และ พระพาทิยทารุจีริยเถระ (พระไตรปิฎกเล่มที่ 20 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 12: อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค ข้อที่ 214, 216) 

ประวัติความเป็นมาและบุพกรรมในชาติก่อน, การบรรลุธรรม ความเป็นเอตทัคคะ และต้นบัญญัติสิกขาบท 

พระทัพพมัลลบุตรเถระ เอตทัคคะในทางผู้จัดเสนาสนะ 

“เมื่อก่อน พระทัพพมัลลบุตรองค์ใด เป็นผู้อันบุคคลอื่นฝึกฝนได้โดยยาก แต่เดี๋ยวนี้ พระทัพพมัลลบุตรองค์นั้นเป็นผู้อันพระศาสดาได้ทรงฝึกฝนด้วยการฝึกฝนด้วยมรรคอันประเสริฐ เป็นผู้สันโดษข้ามความสงสัยได้แล้ว เป็นผู้ชนะกิเลส ปราศจากความขลาด มีจิตตั้งมั่น ดับความเร่าร้อนได้แล้ว” 

พระพาทิยทารุจีริยเถระเอตทัคคะในทางขิปปาภิญญา (ตรัสรู้เร็วพลัน) 

“หากว่า คาถาแม้พันหนึ่ง ไม่ประกอบด้วยบทเป็นประโยชน์ [ไม่ประเสริฐ], บทแห่งคาถาบทเดียว ซึ่งบุคคลฟังแล้ว สงบระงับได้ ประเสริฐกว่า” 

ตัวอย่างของภิกษุ 2 รูป ที่ได้สำเร็จบรรลุเป็นพระอรหันต์  แต่ด้วยได้กระทำกรรมชั่วไว้ในอดีตชาติ  ทำให้เศษวิบากของกรรมนั้นส่งผลมายังชาติสุดท้าย เพราะฉะนั้นจงอย่าประมาท ตั้งจิตไว้ให้ถูกต้อง อย่าเผลอเพลินเดินออกนอกมรรค


Timeline
[02:55] พระภิกษุในธรรมวินัยนี้คือเหมือนช้างกับม้าอาชาไนย…
[09:30] เคยคบกับภิกษุที่ไม่ดีในสมัยพระพุทธเจ้าวิปัสสีทำกรรมไม่ดี
[17:12] ตอนที่เกิดปรากฏว่าแม่ท่านเสียชีวิตก่อนที่ท่านจะคลอด คือแม่ตายทั้งกลม
[18:25] เมื่อปลงผมปอยแรกตกลงก็บรรลุโสดาปัตติผล
[23:10] มีความสามารถที่ทำแสงสว่างที่นิ้วมือได้
[29:50] ทานที่เราให้นี้ อนิสงส์อยู่ที่ทั้งผู้ให้และผู้รับ
[32:30] โจทก์พระทัพพะด้วยอาบัติปาราชิกข้อที่ 1 คือ เสพเมถุน
[40:50] พระพาหิยทารุจีริยะเป็นผู้เลิศในความเป็นผู้บรรลุเร็ว ตรัสรู้เร็ว
[41:28] ชาติสุดท้ายเกิดในตระกูลพ่อค้าทางเรือ
[44:10] ท่านคิดว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์จริง ๆ
[50:55] ได้เห็นพระพุทธเจ้าก็มีปิติมาก ก็เข้าไปขอฟังธรรม
[54:56] พระพุทธเจ้าให้ไปจัดการสรีระแล้วสร้างเจดีย์ให้