จากคำถาม: ทำอย่างไรจึงจะไม่เกิดอีก?, ความคิดที่ว่า “การไม่เกิด หมายถึง ต้องบรรลุเป็นพระอรหันต์ หรือ การปฎิบัติตามมรรคแปดไปเรื่อย ๆ จนละสังขาร หรือ ต้องไม่ยึดติดกับอะไรก็จะไม่มีการเกิด” ถูกต้องหรือไม่? และการไม่มาเกิดอีกคือ “นิพพาน” ใช่หรือไม่? 

อย่างแรกคือ ทำความเข้าใจการเกิดให้ถูกต้อง เห็นว่าการเกิดเป็นทุกข์ จะเกิดหรือดับลงได้ก็เพราะมีเหตุปัจจัย, ทำความเข้าใจในหลักอริยสัจ4 โดยองค์รวมอและปฏิบัติตนไปตามอริยมรรคมีองค์แปด 

อย่างที่สอง เหตุของการเกิดคืออวิชชา จะต้องละเหตุของมันด้วยการดับอวิชชา ดับตัณหาอุปาทาน  และละกิเลส จึงจะทำให้การเกิดดับไปได้ 

ทั้งการเกิด (ขันธ์ 5) และอริยมรรคมีองค์แปดต่างก็เป็นสังขตธรรม (ธรรมที่ต้องอาศัยเหตุปัจจัยทำให้เกิดขึ้น) มีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์  และเป็นของปรุงแต่งเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ การเกิดนั้นเป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือได้ ในขณะที่อริยมรรคมีองค์แปดทำให้กำจัดหรือละความยึดถือไปได้ เป็นที่สงบระงับของสังขารทั้งหลาย   

บุคคลที่ปฏิบัติไปตามทางของความดับไม่เหลือของทุกข์ (ทางที่ประกอบด้วยองค์ประเสริฐ 8 ประการ) เรียกว่า อริยบุคคล (คนประเสริฐ)  

จากคำถาม: ทำอย่างไรเพื่อให้มีวินัย​สำหรับการนั่งสมาธิทุกวัน วันละ​ 15 นาที​ 

ทุกอย่างจึงต้องอาศัยการฝึกการทำให้เกิดเป็นทักษะ ซึ่งเราจะทำได้ต้องมีกำลังใจดุจช้างอาชาไนยที่มีกำลังมาก เริ่มต้นด้วยการมีศรัทธา เมื่อมีศรัทธาแล้วจะทำให้เกิดการทำจริงแน่วแน่จริง คือ วิริยะ (วายามะ) คือ ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะมาขัดขวางการกระทำของเรา นั่นคือกิเลสเครื่องเศร้าหมองจิต ไม่ให้เคลิบเคลิ้มไปตามความง่วงซึมหรือยินดีพอใจในที่นอนนุ่ม ๆ 

“ไม่ทำจึงไม่ได้ ไม่ได้จึงไม่ทำ” จะปรับแก้ความคิดนี้ได้ด้วยการเจริญอิทธิบาท 4 ซึ่งเป็นอย่างเดียวกันกับอินทรีย์ 5 ที่อยู่ในหมวดธรรมเดียวกัน นั่นคือ โพธิปักขิยธรรม (ธรรมะที่จะทำให้เกิดการบรรลุธรรมได้) และในที่นี้ คือ การที่จะให้เกิดญาณในความเป็นปกติสำหรับการนั่งสมาธิ 15 นาทีทุกวัน…ให้ทำเลย ทำให้มันเกิดขึ้นเลย ทำซ้ำทำย้ำอยู่เรื่อย ๆ มันต้องได้…ถ้าทำไม่ได้จึงต้องทำ อันนี้คิดถูก แล้วเราจะทำได้จนเป็นนิสัยอย่างเป็นอัตโนมัติ 

“…ให้เราฝึกทำ การฝึกบางทีมันลำบาก ถ้าลำบากแล้วกุศลธรรมมันเกิด ก็ให้ลำบาก…อย่าเห็นแก่ความลำบาก อย่าเห็นแก่ความสบาย แต่ให้เห็นแก่กุศลธรรม เห็นแก่ประโยชน์ เห็นแก่สามัญญผลที่จะเกิดขึ้น”


Timeline
[02:51] ทำอย่างไรจึงจะไม่เกิดอีก การมีความคิดที่ว่า “การไม่เกิด หมายถึง ต้องบรรลุเป็นพระอรหันต์ หรือ การปฎิบัติตามมรรคแปดไปเรื่อยๆ จนละสังขาร หรือ ต้องไม่ยึดติดกับอะไรก็จะไม่มีการเกิด” ถูกต้องหรือไม่ อีกทั้งการไม่มาเกิดอีกคือ “นิพพาน” ใช่หรือไม่
[05:40] เข้าใจการเกิดให้ถูกต้อง(ปริญญา) เห็นว่าการเกิดเป็นทุกข์ จะมีขึ้นหรือดับลงก็ได้เพราะมีเหตุปัจจัยทำให้เกิด โดยทำความเข้าใจในหลักการดำเนินชีวิตตามอริยสัจสี่องค์รวมและปฏิบัติตนตามหลักของอริยมรรคมีองค์แปด
[11:33] เหตุของการเกิดคือ อวิชชา (เพราะอวิชชามีจึงมีการเกิด) ดังนั้นจึงต้องละเหตุของมันด้วยการดับอวิชชา ดับตัณหาอุปาทาน และละกิเลสจึงจะทำให้การเกิดดับไปได้
[16:51] อริยบุคคลหรือบุคคลอันประเสริฐ เป็นบุคคลที่สามารถรักษาศีลได้ ปฏิบัติสมาธิ จนเกิดขึ้นเป็นปัญญา ซึ่งแตกต่างจากปุถุชนหรือบุคคลที่ยังไม่มาตามทางของอริยมรรคมีองค์แปด
[24:04] ทำอย่างไรเพื่อให้มีวินัย​สำหรับการนั่งสมาธิทุกวัน วันละ​ 15 นาที
[25:49] เมื่อมองเห็นโทษของสิ่งที่ไม่ดี เช่น นอนมาก ทานจุ แต่เห็นประโยชน์ของการนั่งสมาธิ ให้ลงมือทำและฝึกปฏิบัติสมาธิทันทีด้วยจิตใจที่มีความเข้มแข็งและกำลังจิตที่แก่กล้า แล้วฝึกทำซ้ำ ทำย้ำ ทำบ่อยๆจนกลายเป็นนิสัย มีความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสามารถทำได้เลยโดยอัตโนมัติ
[35:31] ธรรมะที่ต้องตั้งไว้คือ อิทธิบาทสี่ เพื่อกำจัดวงจรความคิดที่ว่า “ไม่มีทักษะจึงไม่ทำ เมื่อไม่ทำจึงไม่เกิดทักษะ แล้วจึงทำให้งานใดๆ ไม่อาจสำเร็จลงได้”