กายอาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น มีอยู่ดำรงอยู่ได้ชั่วเวลาที่เหตุปัจจัยนั้นมันยังคงมีอยู่ ถ้าเหตุปัจจัยเปลี่ยนแปลงไป กายนี้ก็เสื่อมไป ไม่เหลืออะไร แยกไปตามธาตุ ไม่ใช่ตัวตน เป็นอนัตตา เป็นเงื่อนไขที่ต้องยอมรับ ต้องทำความเข้าใจ
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา ความรู้คือญาณนี้ต่างหากที่ต้องทำเกิดขึ้น ความสงบระงับแห่งสังขารนี้ได้ต่างหากเล่าจึงจะเป็นสุขอันเกษม
เห็นความจริง แล้วจะหน่าย คลายกำหนัด วางความยึดถือในกายนี้ได้ วางความยึดถือ จิตให้อยู่กับสติ สติอยู่ในกาย ตั้งสติไว้ในกายให้เห็นตามความเป็นจริง

Time Index

[00.52] เริ่มการปฏิบัติ ตั้งสติไว้ในกาย

[16.07] ไล่ไปตามกระดูก กายนี้มีกระดูกเป็นโครง มีหลายชิ้นต่อกัน จากกระโหลกศรีษะจนถึงกระดูกปลายเท้า ยึดโยงกันด้วยเส้นเอ็น ทุกคนเหมือนกันหมด

[28.47] จิตของเรายึดกายนี้ด้วยความเป็นตัวตน ส่องกระจกให้สะท้อนถึงกระดูก

[39.10] กายอาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น ถ้าเหตุถ้าปัจจัยเปลี่ยนแปลงไป กายนี้ก็เสื่อมไป ไม่เหลืออะไร แยกไปตามธาตุ ไม่ใช่ตัวตน เป็นอนัตตา

[42.43] อย่าหลง อย่าเพลิน อย่าเข้าใจผิด แต่ให้เกิดปัญญาว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา

[51.33] วางความยึดถือ จิตให้อยู่กับสติ สติอยู่ในกาย ตั้งสติไว้ในกายให้เห็นตามความเป็นจริง นี้เรียกว่ากายคตาสติ