ครั้งอดีตกาล มีอาจารย์ช่างไม้คนหนึ่ง และลูกศิษย์ ได้เข้ายึดครองเมืองทำการอภิเษกตนขึ้นเป็นราชาพระนามว่า พระเจ้ากัฏฐวาหนะ แม้นครนั้นก็ได้ชื่อว่ากัฏฐวาหนนคร พระราชาทรงดำรงตนอยู่ในธรรม และสงเคราะห์เหล่าศิษย์ด้วยสังคหวัตถุ 4 จึงเป็นแคว้นที่มีความมั่งคั่งสมบูรณ์ อยู่มาวันหนึ่ง เหล่าพ่อค้าจากกรุงพาราณสีเดินทางมาค้าขาย เมื่อพระราชาทราบจึงพระราชทานเสบียงแก่พ่อค้าเหล่านั้น เหล่าพ่อค้ากลับไปยังกรุงพาราณสีได้กราบทูลให้พระราชาของตนทราบ ทั้งสองเมืองจึงเป็นมิตรที่ดีต่อกันเรื่อยมา ในสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า “กัสสปะ” ประทับอยู่ ณ กรุงพาราณสี พระเจ้าพาราณสีทรงดำริว่าสิ่งอื่นจะสูงสุดยิ่งกว่าพระรัตนตรัยไม่มี เราจะส่งข่าวแก่สหายของเรา พระราชากัฏฐวาหนะได้ทรงทราบความว่าสหายของท่านทรงส่งรัตนบรรณาการ ซึ่งหาได้ยากยิ่งตลอดแสนกัป พระองค์ทรงได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยฟังว่าพระพุทธเจ้าทรงอุบัติแล้วในโลกดังนี้ ทรงดำริว่าควรจะไปเฝ้าพระพุทธเจ้าและฟังพระธรรม จึงออกเดินทางไปยังนครพาราณสี เมื่อยังไปไม่ถึงที่หมายพระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานเสียแล้ว ต่างพากันร้องไห้คร่ำครวญ จึงกล่าวถามว่าพระโอวาทที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประทานไว้ยังมีอยู่หรือไม่ พระสาวกกล่าวว่า มีอยู่อุบาสก “คือ พึงตั้งอยู่ในพระรัตนตรัย พึงสมาทานศีล 5 พึงเข้าอยู่จำอุโบสถประกอบด้วยองค์ 8 พึงให้ทาน และพึงปฏิบัติธรรม”

อ่าน “อรรถกถาขุททกนิกาย สุตตนิบาต อรรถกถาวัตถุคาถา แห่งปารายนวรรค”


Timeline

[00:27] นิทานพรรณนา “พบพุทธะ”
[04:07] อดีตชาติของพราหมณ์พาวรี
[14:50] กำเนิดกัฏฐวาหนะราชา
[34:47] บรรณาการล้ำค่าด้วยจารึกแห่งรัตนสาม
[46:00] แม้รีบเดินทางก็ยังไม่ทันเวลาพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
[55:22] ปัจจุบันชาติของพราหมณ์พาวรี