สืบเนื่องมาจากในรายการ ช่วงใต้ร่มโพธิบท Ep.53 ที่ได้กล่าวในเรื่องเกี่ยวกับทาน  จึงได้ยกนิทานธรรมบท 2 เรื่องและนิทานชาดกที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน มาเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ความตระหนี่เป็นเครื่องกางกั้นไม่ให้บรรลุธรรม 

ธรรมบทแปลเรื่อง “โกสิยเศรษฐี” โกสิยะเศรษฐี อยากกินขนมเบื้องแต่กลัวต้องเสียทรัพย์เพราะมีคนอื่นจะมาขอกินด้วย จึงแอบไปทอดขนมบนยอดปราสาท 7 ชั้น พระพุทธเจ้าทรงให้พระโมคคัลลานะไปทรมานเศรษฐีเพื่อให้มีดวงตาเห็นธรรม สุดท้ายเศรษฐีและภรรยา ก็ละซึ่งความตระหนี่เสียได้ และบรรลุโสดาปัตติผล

นิทานชาดกเรื่อง “อิลลีสชาดก” ว่าคนมีรูปร่างเหมือนกัน อิลลีสเศรษฐี ทำบาปด้วยการเผาโรงทาน ขับไล่พวกยาจก เอาแต่สั่งสมทรัพย์ ไม่ทำบุญให้ทาน แต่บิดาของเศรษฐีนั้นได้เกิดเป็นท้าวสักกะในเทวโลก เพราะทำบุญให้ทานเป็นอันมาก ท้าวสักกะต้องการจะสั่งสอนอิลลีสะให้รู้ผลแห่งกรรม จึงเนรมิตกายเป็นอิลลีสะอีกคนหนึ่งนำทรัพย์สมบัติออกแจกจ่ายเป็นทานให้กับชาวบ้านเป็นอันมาก หลังจากอิลลีสเศรษฐีได้ฟังคำสั่งสอนของท้าวสักกะ จึงละซึ่งความตระหนี่ได้ เและป็นผู้มีสวรรค์เป็นที่ไปในภายหน้า  

และสุดท้ายเป็นธรรมบทแปลเรื่อง “เศรษฐีชื่อพิฬาลปทกะ”หรือ เศรษฐีตีนแมว พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมแก่พิฬาลปทกะเศรษฐี ในเรื่องของทาน  (ให้ทานเองและชักชวนคนอื่นด้วย)  ตรัสไว้ว่า “บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญว่า ‘บุญมีประมาณน้อยจักไม่มาถึง’ แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมา ทีละหยาดๆ ได้ฉันใด, ธีรชน ผู้มีปัญญา สั่งสมบุญแม้ทีละน้อย ๆ ย่อมเต็มด้วยบุญได้ฉันนั้น” และเมื่อฟังธรรมจบเศรษฐีได้บรรลุโสดาปัตติผล

แนะนำรับฟังเพิ่มเติมได้ที่ Playlists:ใต้ร่มโพธิบท Ep.53