“ความคิดเรื่องทางโลกนั้นมีมากไม่จบไม่สิ้น ในทางคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านบอกว่าอย่าไปคิด แต่ให้คิดมาในทางอริยสัจ 4 “

เรื่องราวนี้มาใน อุทุมพริกสูตร นิโครธปริพาชกตรัสถามเรื่องการบำเพ็ญตบะ ว่าบำเพ็ญอย่างไรจึงเรียกว่าบริสุทธิ์ และ อย่างไรเรียกว่าไม่บริสุทธิ์

พระพุทธเจ้าทรงอธิบายว่า “ตปัสสีวัตร” (การบำเพ็ญตบะเพื่อทรมานตัวเอง) เช่นการไม่นุ่งผ้า การให้ตัวเองอยู่ในที่ร้อนๆ การไม่กินอาหารที่เขานิมนต์ การนอนการเดินบนหนาม ฯ ทั้งหมดนี้คือการทรมานตัวเองให้ลำบาก หาความทุกข์มาทับถมตัวเอง เป็นการบำเพ็ญตบะที่ไม่บริสุทธิ์เป็นอุปกิเลส มี 16 อย่าง (1.มีดำริเต็มรอบ 2. มีการยกตนข่มคนอื่น 3.มีความเมาในการบำเพ็ญ 4.ดำริในลาภสักการะ 5. ข่มคนอื่นในลาภสักการะที่ตนได้ 6.มัวเมาในลาภสักการะที่ตนได้ 7. กำหนัดยินดีในลาภสักการะ 8. ความใคร่ในสักการะ 9. รุกรานสมณะในลัทธิอื่น 10. ริษยาอยากได้ในปัจจัยของผู้อื่น 11.นั่งในที่ที่ให้ผู้อื่นว่าตนเป็นผู้มีความเพียรในการทำตบะ 12.มีความตระหนี่ 13. เสพโทษอันปกปิดบางอย่าง ล้างบาปด้วยทุกรกิริยา 14. เมื่อพระพุทธเจ้าแสดงธรรมอยู่ ก็ไม่ผ่อนตามปริยายซึ่งควรจะผ่อนตาม 15.เป็นผู้มักโกรธมักผูกโกรธ 16. มีความลบหลู่ ตีเสมอ ริษยา ตระหนี่ โอ้อวด มีมารยา กระด้าง ถือตัวจัด เป็นผู้มีความปรารถนาลามก… เป็นมิจฉาทิฐิเป็นผู้ลูบคลำทิฐิเอง เป็นผู้ถือมั่น สละคืนได้ยาก…ถ้าบำเพ็ญตบะปราศจากการยึดถือใน 16 ข้อนี้ จะทำให้การบำเพ็ญตบะเป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์