“การให้ธัมมะอยู่ที่จิตใจไม่ได้อยู่ที่สิ่งของ”

Q: การให้ธัมมทานคืออะไร
A: “การให้ธัมมะชนะการให้ทั้งปวง” จากพุทธพจน์บทนี้ทำให้บางท่านเข้าใจคลาดเคลื่อนในลักษณะการให้ธัมมะ การให้ในทุกระดับล้วนเป็นธัมมะตั้งแต่สิ่งของต่าง ๆ จนถึงการกระทำในใจ แค่เรามีธัมมะในใจนั่นคือ การให้แล้ว การให้ธัมมะอยู่ที่จิตใจไม่ใช่ที่สิ่งของ

Q: ให้ทานทีละน้อยแต่บ่อยครั้งกับนาน ๆ ให้ทีแต่มากอย่างไหนดีกว่ากัน
A: ควรทำทั้งสองอย่าง การแบ่งจ่ายทรัพย์ใน 4 หน้าที่ให้ถูกต้องจะช่วยขจัดความตระหนี่ได้

Q: ควรเลือกให้ในศาสนา หรือในสาธารณกุศลมากกว่ากัน
A: คนละจุดประสงค์ เพื่อเอาบุญกับการสงเคราะห์ ถ้าไม่มีโลกหรือเราก็ไปไม่ได้  แบ่งสัดส่วนตามสถานการณ์

Q: ผลความต่างของทานในหมู่มิจฉาทิฏฐิกับหมู่สัมมาทิฏฐิ
A: ต้องเลือกให้ในหมู่ที่มีราคะโทสะโมหะน้อยจะได้บุญมาก และการให้ในหมู่ที่มีมิจฉาทิฏฐิเป็นการเพิ่มกำลังให้เขาทำให้ภิกษุที่มีศีลอันเป็นที่รักถูกเบียดเบียนได้

Q: ให้เฉพาะเจาะจงดีหรือให้ในหมู่ดีกว่ากัน
A: การให้ที่ตั้งจิตถวายในหมู่ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีอานิสงส์มากกว่า

Q: บาปจากการโกงกินจะชดใช้กัมม์อย่างไร
A: เป็นการผิดศีลข้อ 2 ซึ่งจะพาไปนรกเปรตวิสัยหรือเดรัจฉานได้ อย่ามองแค่สุขหรือทุกข์ในภพนี้ ให้มองถึงความคุ้มหรือไม่คุ้มถ้าต้องไปรับวิบากในภพต่อไป หรือมองในปัจจุบันนี้ถ้ากลัวต่อการตำหนิตนเองได้ หรือกลัวผู้อื่นตำหนิได้ หรือกลัวอาญาบ้านเมือง จะไม่กล้าทำเพราะหิริโอตัปปะในใจ