ในเอพิโสดนี้ ได้ยกเรื่องราวของเหล่าอุบาสกผู้เลิศมาให้รับฟังถึง 4 พระสูตรด้วยกัน โดยมีเนื้อหาประเด็นที่น่าสนใจ สามารถศึกษาทำความเข้าใจตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงมีการพิจารณาธรรมในเรื่องเหล่านี้ไว้อย่างไร
จูฬทุกขักขันธสูตร ว่าด้วยกองทุกข์ | ณ นิโครธาราม ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ พระพุทธเจ้าตรัสแสดงธรรมแก่เจ้ามหานามศากยะ ผู้ทูลถามถึงว่า ธรรมชื่ออะไรที่ยังทรงละไม่ได้เด็ดขาดในภายใน เป็นเหตุให้ โลภะ โทสะ โมหะ อันเป็นเครื่องเศร้าหมองแห่งจิต ยังครอบงำจิตไว้ได้เป็นครั้งคราว
[๒๑๐] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมหานาม ธรรมนั้นนั่นแล ท่านยังละไม่ได้เด็ดขาดในภายใน อันเป็นเหตุให้ โลภธรรมก็ดี โทสธรรมก็ดี โมหธรรมก็ดี ยังครอบงำจิตของท่านไว้ได้เป็นครั้งคราว ดูกรมหานาม ก็ธรรมนั้นจักเป็นอันท่านละได้เด็ดขาดในภายในแล้ว ท่านก็ไม่พึงอยู่ครองเรือน ไม่พึงบริโภคกาม แต่เพราะท่านละธรรมเช่นนั้นยังไม่ได้เด็ดขาดในภายใน ฉะนั้น ท่านจึงยังอยู่ครองเรือน ยังบริโภคกาม.
[๒๑๑] ดูกรมหานาม ถ้าแม้ว่า อริยสาวกเล็งเห็นด้วยปัญญาโดยชอบตามเป็นจริงว่า กามให้ความยินดีน้อย มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก โทษในกามนี้ยิ่ง ดังนี้ แต่อริยสาวกนั้นเว้นจากกาม เว้นจากอกุศลธรรม ยังไม่บรรลุปีติและสุข หรือกุศลธรรมอื่นที่สงบกว่านั้น เธอจะยังเป็นผู้ไม่เวียนมาในกามไม่ได้ก่อน แต่เมื่อใด อริยสาวกได้เล็งเห็นด้วยปัญญาโดยชอบ ตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า กามให้ความยินดีน้อย มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก โทษในกามนี้ยิ่ง ดังนี้ และเธอก็เว้นจากกาม เว้นจากอกุศลธรรม บรรลุปีติและสุข หรือกุศลธรรมอื่นที่สงบกว่านั้น เมื่อนั้น เธอย่อมเป็นผู้ไม่เวียนมาในกามเป็นแท้.
มนาปทายีสูตร ว่าด้วยผู้ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ | อุคคคฤหบดีถวายของที่ตนพอใจแด่พระพุทธเจ้า ด้วยทราบว่าผู้ให้ของที่พอใจย่อมได้ของที่พอใจ พระพุทธองค์ทรงอาศัยความอนุเคราะห์รับของที่อุคคฤหบดีถวายทุกครั้ง เมื่ออุคคคฤหบดีตายไปก็เข้าถึงหมู่เทพชื่อมโนมยะ
“ผู้ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ผู้ใดย่อมให้เครื่องนุ่งห่ม ที่นอน ข้าว น้ำ และปัจจัยมีประการต่างๆ ด้วยความพอใจ ในท่านผู้ประพฤติตรง สิ่งของที่ให้ไปแล้วนั้นย่อมเป็นของที่บริจาคแล้ว สละแล้ว ไม่คิดเอาคืน ผู้นั้นเป็นสัปบุรุษทราบชัดว่า พระอรหันต์เปรียบด้วยนาบุญ บริจาคสิ่งที่บริจาคได้ยากแล้ว ชื่อว่าให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ดังนี้ ฯ
ชีวกสูตร ว่าด้วยหมอชีวกโกมารภัจจ์ | ณ ป่ามะม่วงของหมอชีวก หมอชีวกได้เข้าเฝ้าฯ ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า ที่เขาพูดกันว่าพระสมณโคดมทรงทราบอยู่ก็เสวยเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่าเจาะจงถวายนั้นเป็นความจริงเพียงไร พระพุทธเจ้าตรัสตอบถึง เนื้อที่ไม่ควรบริโภคและควรบริโภค ยังได้อธิบายต่อไปอีกในเรื่องของการแผ่กรุณา มุทิตา ไปจนถึงอุเบกขา และการทำบุญได้บาปด้วยเหตุ 5 ประการ
“ดูกรชีวก ชนใดกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดม พระสมณโคดมทรงทราบข้อนั้นอยู่ ก็ยังเสวยเนื้อสัตว์ที่เขาทำเฉพาะตนอาศัยตนทำ ดังนี้ ชนเหล่านั้นจะชื่อว่ากล่าวตรงกับที่เรากล่าวหามิได้ ชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำอันไม่เป็นจริง
ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า ไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนเห็น เนื้อที่ตนได้ยิน เนื้อที่ตนรังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของไม่ควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ นี้แล
ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนไม่ได้เห็น
เนื้อที่ตนไม่ได้ยิน เนื้อที่ตนไม่ได้รังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภค
ด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล”
อาฬวกสูตร ว่าด้วยปัญหาของอาฬวกยักษ์ | พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ ที่อยู่ของอาฬวกยักษ์ ใกล้เมืองอาฬวี ทรงตรัสตอบปัญหาของอาฬวกยักษ์ ได้ช่วยให้เปลี่ยนจากยักษ์ที่มีมิจฉาทิฏฐิกลับมามีสัมมาทิฏฐิ และถึงความนอบน้อมต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธรรมด้วยความที่เป็นธรรมอันดี
“บุคคลเชื่อธรรมของพระอรหันต์ เพื่อบรรลุนิพพาน ฟังอยู่ด้วยดีย่อมได้ปัญญา เป็นผู้ไม่ประมาท มีวิจาร คนทำเหมาะเจาะ ไม่ทอดธุระ เป็นผู้หมั่น ย่อมหาทรัพย์ได้ คนย่อมได้ชื่อเสียงเพราะความสัตย์ ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้ บุคคลใดผู้อยู่ครองเรือนประกอบด้วยศรัทธา มีธรรม ๔ ประการนี้คือ สัจจะ ธรรมะ ธิติ จาคะ บุคคลนั้นแล ละโลกนี้ไปแล้วย่อมไม่เศร้าโศก เชิญท่านถามสมณพราหมณ์เป็นอันมากเหล่าอื่นดูซิว่าในโลกนี้มีอะไรยิ่งไปกว่าสัจจะ ทมะ จาคะ และขันติ ฯ”
แนะนำรับฟังเพิ่มเติมได้ที่ Playlists: เข้าใจทำ (ธรรม) S07E39 , ใต้ร่มโพธิบท S07E69 , คลังพระสูตร S08E15 , นิทานพรรณนา S02E02 , ขุดเพชรในพระไตรปิฎก S02E05