สิ่งใดก็ตาม ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องด้วย กามหรือขันธ์ 5 ต่างก็มีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ จะมีความแปรปรวนไป จะมีความเป็นอนัตตา มีความไม่ใช่ตน ตามกันมาด้วย หากเราต้องการในสิ่งที่เป็นอนัตตา เราก็จะไม่ได้ตามปรารถนา เนื่องจากสิ่งนั้นมีความเป็นอาพาธอยู่ด้วย อาพาธนั้นคือโทษ เป็นความที่มันเปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่เที่ยง และแน่นอนมันก็เป็นอนัตตาเช่นเดียวกัน

เมื่อเราเห็นโทษของกาม โทษของขันธ์ 5 และโทษของความเสื่อมแล้ว หากสามารถปล่อยวางได้จะทำให้เราไม่รู้สึกยินดียินร้าย ทำให้ไม่รู้สึกแย่ไปตามสุขหรือทุกข์ที่เกิดขึ้นหรือดับไป

หนึ่งในข้อธรรมที่เราควรพิจารณาใคร่ครวญคือ “ธัมมุทเทส 4” ซึ่งเป็นธรรมะที่เมื่อมีแล้ว ใคร่ครวญแล้วจะทำให้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท

ดังนั้นเราจึงควรพิจารณาใคร่ครวญตามธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ตั้งตนอยู่ในความประมาท และปฏิบัติตนตามแนวทางของอริยมรรคมีองค์แปด เพื่อละวางความยึดถือในสิ่งต่าง ๆ และเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้