พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน “อนุตตริยสูตร” เปรียบเทียบส่วนเหมือนส่วนต่างให้เห็นถึงว่า สิ่งทั่วไป ๆ ที่ชาวโลกชาวบ้านเขามักจะเข้าใจว่า เป็นการได้ เป็นการเห็น เป็นการฟัง เป็นการบำรุง และเป็นการระลึกถึง เป็นการศึกษา ที่จะคิดว่ามันจะดี ก็ยังไม่เป็นไปเพื่อสัมโพธิ ความรู้ยิ่ง หรือนิพพาน ยังไม่กล่าวว่า ยอดเยี่ยมจริง ๆ แต่การได้ยิน ได้เห็นอะไร การศึกษาเรื่องอะไร ระลึกถึงสิ่งไหน แล้วมันไม่เป็นด้วยสาธารณะกับของคนอื่น เป็นของเฉพาะตน เป็นไปเพื่อปัญญา เป็นไปเพื่อนิพพาน อันนั้นสุดยอดกว่า ถ้าเราไม่เห็นไม่เข้าใจแสดงว่า ความรัก ความศรัทธาตั้งมั่น ยังไม่เต็มที่ ให้ฝึกให้มีความรัก ความศรัทธาตั้งมั่น ในพระพุทธเจ้าและในคำสอน เราจะเห็น จะเข้าใจในข้อนี้ได้

อนุตตริยสูตร ว่าด้วยสิ่งยอดเยี่ยม  6 อย่าง
ทัสสนานุตริยะ – การเห็นอันเยี่ยม ได้แก่ การเห็นพระตถาคต และตถาคตสาวกรวมถึงสิ่งทั้งหลายที่จะให้เกิดความเจริญงอกงามแห่งจิตใจ
สวนานุตตริยะ –  การฟังอันเยี่ยม ได้แก่ การสดับธรรมของพระตถาคต และ ตถาคตสาวก
ลาภานุตตริยะ –  การได้อันเยี่ยม ได้แก่ การได้ศรัทธาในพระตถาคตและตถาคตสาวก หรือการได้อริยทรัพย์
สิกขานุตตริยะ –  การศึกษาอันเยี่ยม ได้แก่ การฝึกอบรมในอธิศีล อธิจิต และอธิปัญญา
ปาริจริยานุตตริยะ –  การบำเรออันเยี่ยม ได้แก่ การบำรุงรับใช้พระตถาคตและตถาคตสาวก
อนุสสตานุตตริยะ –  การระลึกอันเยี่ยม ได้แก่ การระลึกถึงพระตถาคต และตถาคตสาวก

โดยสรุปคือ การเห็น การฟัง การได้ การศึกษา การช่วยรับใช้ และการรำลึกที่จะเป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์ ล่วงพ้นโสกะปริเทวะ ดับสูญทุกข์โทมนัส เพื่อการบรรลุญายธรรม ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน

#1952-2m0811