หลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ได้ทรงเสวยวิมุตติสุขตลอด 7 วัน ณ ที่โคนแห่งไม้โพธิ์ ด้วยกระทำมนสิการซึ่งปฏิจจสมุปบาท โดยอนุโลมและปฏิโลม และได้เปล่งพุทธอุทานขึ้น 3 รอบ
เหตุเกิดมี เหตุดับก็มี มันจะไม่หนีไปจากนี้, ไม่เป็นไปโดยความเป็นประการอื่น, ไม่ผิดจากความเป็นอย่างนี้, มันต้องถึงความเป็นอย่างนี้ และความที่มันต้องอาศัยเหตุปัจจัยกัน มันถึงเกิดขึ้น มีอยุู่ ตั้งอยู่ได้ สิ่งเหล่านี้เราเรียกว่า ธรรมที่อาศัยกันและกันแล้วจึงเกิดขึ้น คือ “ปฏิจจสมุปบาท”
บุคคลที่เพ่งพินิจอยู่ ทำความเพียรอยู่ จะรู้ทั่วถึงธรรมพร้อมทั้งเหตุที่เกิด รู้ทั่วถึงธรรมความสิ้นไป ความดับไป ความสงสัยหมดไปหายไป เกิดความแจ่มแจ้งขึ้น เหมือนพระอาทิตย์ขึ้น ความมืดหายไป สว่างไปหมด พอเรารู้รอบเรื่องเจ้าอวิชชา มันอยู่ไม่ได้ ๆ เพราะความรู้รอบนั้น คือ วิชชา…มีความรู้แบบนี้แล้ว สบายใจที่สุดในโลกแล้ว นั่งอยู่เฉย ๆ ก็สบายใจ ไม่ต้องทำอะไรก็สบายใจ มีความสบายใจเกิดขึ้นเต็มทีเลย นั่นคือวิมุตติ คือความพ้นแล้ว คือตื่นแล้ว คือพุทโธ
ทำความรู้แจ้งนี้ให้เกิดขึ้น ความสิ้นทุกข์จะมีได้ เราจะดับทุกข์ได้ ก็ดับที่อวิชชา จะดับอวิชชาได้ ก็ทำวิชชาให้เกิดขึ้น จะทำวิชชาให้เกิดขึ้นได้ ก็ทำมรรค 8 นี่แหละให้มันเกิดขึ้น