“ปัญญาและวิญญาณ ธรรม 2 ประการนี้ ปะปนกัน ไม่แยกจากกัน แต่ปัญญาควรเจริญ วิญญาณควรกำหนดรู้ นี่เป็นกิจที่จะพึงทำต่างกันแห่งธรรม 2 ประการนี้.” …มหาเวทัลลสูตร เจาะลงมาที่เรื่องปัญญากับวิญญาณ

สิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบนั้น มันเป็นเหตุที่อาศัยเหตุปัจจัยปรุงแต่ง เป็นสิ่งที่อาศัยปัจจัยอย่างอื่นแล้วจึงเกิดขึ้น ไม่ได้จะเป็นตัวของมันเอง เป็นอนัตตา เราจะมีปัญญารู้ชัดสิ่งที่มากระทบต่าง ๆ เหล่านั้นได้ ไม่ใช่ว่าเราไม่รับรู้อะไร เพราะการรับรู้ (วิญญาณ) นั้น มันเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาด้วยมีอายตนะภายนอกและอายตนะภายในสัมผัสเชื่อมต่อกัน

“ปัญญารู้ชัดสิ่งใด วิญญาณก็รู้แจ้งสิ่งนั้น วิญญาณรู้แจ้งสิ่งใด ปัญญาก็รู้ชัดสิ่งนั้น” ตรงนี้สำคัญ ต้องไปด้วยกัน ถ้าเราไม่มีปัญญารู้ชัดในสิ่งที่เรารู้แจ้ง (รับรู้) แต่เผลอเพลินไปตามสิ่งที่รู้แจ้งนั้น เกิดความพอใจไม่พอใจสะสมในจิต ทำให้ไม่เห็นได้ว่ามีเหตุปัจจัยเกิดขึ้นมาได้เป็นอย่างไร ๆ มีสติไม่ทัน เพราะจิตไม่มีกำลัง ไม่มีมีสมาธิ ไม่ได้ระวังรักษา เพราะไม่มีการทำจริงแน่วแน่จริงไม่มีมีความเพียรเกิดขึ้นได้ เพราะไม่มีความมั่นใจ ไม่มีศรัทธา ด้วยเหตุนี้ปัญญาจะเกิดขึ้นไม่ได้

ถ้าเรามีสติตั้งเอาไว้ ไม่เผลอไม่หลง แต่ระวังรักษาเอาไว้ จะมีสติตั้งไว้ได้จะต้องมีความเพียรต้องมีศรัทธา มีศรัทธาตั้งไว้อยู่อย่างถูกต้องในพุทโธ ธัมโม สังโฆ ปรารภความเพียรอย่างมั่นคงบากบั่น ทำสติให้เกิดขึ้นตั้งมั่นไม่ลืมหลง ระวังรักษา ก็จะทำจิตนั้นมีความมั่นคงเป็นสมาธิ ไม่ลำเอียง ไม่มีอคติ สามารถแยกแยะ เกิดปัญญารู้ชัดตามความเป็นจริงในทุกสิ่งที่ไปรับรู้ได้

แนะนำรับฟังเพิ่มเติมได้ที่ Playlists: เข้าใจทำ (ธรรม) Ep.57 , ใต้ร่มโพธิบท Ep.56 , Ep.57 , คลังพระสูตร Ep.53