Q1: เวลาเราสวดมนต์และท่องเร็ว ๆ หรืออ่านบาลีผิด คำสาธยายธรรมเหล่านั้นจะยังศักดิ์สิทธิ์และมีความเป็นกุศลอยู่หรือไม่

การสวดมนต์ หรือ การสาธยายมนต์ หมายถึง การท่องจำคำสอนของพระพุทธเจ้าให้คล่องปากขึ้นใจ เป็นหนึ่งในวิธีการบันทึกคำสอนให้อยู่ได้ตลอดกาลช้านาน ทั้งนี้นัยยะในการสวดมนต์ควรจะต้องจำได้ เข้าใจความหมาย และด้วยอาการแห่งการสวดมนต์ เมื่อได้ยินได้ฟังแล้วจิตเกิดปิติ ปราโมทย์ มีสุข เป็นสมาธิ เห็นตามความเป็นจริงได้

ข้อควรระวัง คือ อย่าสักแต่ว่าสวดแล้วเลิกร้างการหลีกเร้นหรือการปฏิบัติ เพราะหากสวดมนต์แล้วจิตเป็นกังวลว่าจำบทสวดไม่ได้ หรือหมกหมุ่นแต่ความถูกต้องของบทสวด จนทำให้จิตไม่เป็นสมาธิ ก็จะไม่เป็นผลดีกับผู้สวดเองด้วย

Q2: ปกติผู้ถามถือศีลแปด ไม่ทานอาหารหลังเวลาเที่ยงวัน แต่บางครั้งในขณะที่ฟ้ายังมืดอยู่ ยังไม่สว่าง ซึ่งปกติเวลาตี 5 เรียกว่า ยามสุดท้ายแห่งราตรี (คือยังเป็นกลางคืนอยู่) จำเป็นต้องทานอาหาร จะผิดศีลหรือไม่ หรือต้องรอให้เห็นพระอาทิตขึ้นก่อนแล้วค่อยทานอาหารได้ใช่หรือไม่ และ “วิกาลโภชนา” หนึ่งในศีลแปดของฆราวาสกับพระ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

อ้างอิงตามพุทธพจน์ ศีลในข้อ “วิกาลโภชนา” หมายถึง การเว้นขาดจากการบริโภคในเวลาล่วงกาลและในเวลาราตรี ซึ่งกาละที่เหมาะสม คือ การที่พระอาทิตย์ขึ้นถือเป็นนิมิตเครื่องหมายและ เวลากลางคืน (ราตรี) ในการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบันจำเป็นต้องยืดหยุ่นหรือปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ให้เหมาะสม เพราะวัตถุประสงค์หลักของการรักษาศีลคือ เพื่อให้อยู่ง่าย กินง่าย และไม่เปิดช่องให้กิเลสออกได้ 

Q3: จากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่ประเทศออสเตรเลีย มีสัตว์ตายไปประมาณ 500 ล้านตัว ต้องการทราบว่า สวรรค์จะมีพื้นที่รองรับดวงจิต 500 ล้านเพียงพอหรือไม่ หรือสัตว์มักจะเกิดเป็นสัตว์ 500 ชาติ ในระหว่างที่ดวงจิตที่เพิ่งตายไปและรอเป็นสัตว์ในชาติใหม่ ดวงจิตเหล่านั้นจะไปอยู่ที่ใด?

บนสวรรค์มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก จึงสามารถรองรับดวงจิตจำนวนมากมาย โดยปกติแล้วเมื่อดวงจิตใด ๆ เคลื่อน (จุติ) ออกจะไปเกิด (อุบัติ) ทันที จึงมีความเป็นไปได้ที่สัตว์ที่ตายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในออสเตรเลียอาจจะไปเกิดในภพภูมิที่แตกต่างกันก็ได้

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรรมที่ตนเองได้กระทำมา หรืออาจจะเกิดเป็นสัตว์เหมือนเดิมหากมีความยินดีพอใจในสภาวะความเป็นอยู่ก่อนตาย 

Q4: ในทางพุทธศาสนาการปลดปล่อยวิญญาณมีอยู่จริงหรือไม่ หากมีอยู่จริงการปลดปล่อยวิญญาณจะทำให้วิญญาณนั้นไปเกิดได้จริงหรือไม่?

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทำกรรมใดดีก็ตามชั่วก็ตามย่อมต้องรับผลของกรรมนั้น หากระลึกถึงความดีของตนที่เคยกระทำได้ ย่อมมีสุคติเป็นที่ไป

Q5: การที่คนหลายคนได้กลิ่นธูปโดยไม่มีใครในบ้านจุดธูปเลย จึงเชื่อว่าคนที่เสียชีวิตไปแล้วมาหา ต้องการทราบว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่วิญญาณของผู้เสียชีวิตนั้นมาหาจริง ๆ

นิมิตหรือเครื่องหมาย ที่เปลี่ยนแปลงไปตามคน ตามสถานการณ์ ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถที่จะรู้ได้ เรียกว่า “ญาณ” ที่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะใดขณะหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นหรือมีอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามหากเรามั่นใจว่าได้พบนิมิตแล้ว ควรทรงจิตให้ตั้งมั่นเป็นอย่างดีด้วยการเจริญเมตตาภาวนา