เอพิโสดนี้นำเสนอมหาโคสิงคสาลวันสูตรที่พระเถระที่มีความสามารถไล่มาตั้งแต่พระสารีบุตร พระมหาโมคัลลานะ พระมหากัสสปะ จนถึงพระอานนท์ ได้ไปอยู่ที่ป่าโคสิงคสาลวัน เป็นคืนที่มีราตรีแจ่มกระจ่าง ดอกสาละบานสะพรั่ง บรรยากาศมีความรื่นรมย์ พระเถระหลายรูปจึงพูดคุยกันว่าควรอยู่ด้วยวิหารธรรมอย่างไร แล้วนำเรื่องราวไปเล่าให้พระพุทธเจ้าฟัง

ส่วนจูฬโคสิงคสาลสูตร เป็นเรื่องที่ป่าโคสิงคสาลวันเหมือนกัน แต่ในอีกวาระหนึ่งมีพระอนุรุทธ พระนันทิยะ และพระกิมิละ อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมีความสามัคคี เพราะมีเมตตาให้กันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งทางกายวาจาและใจ พยายามเก็บจิตของตนเอง แล้วทำตามวาระจิตของผู้อื่น “..พร้อมเพรียงกัน ชื่นบานต่อกัน ไม่วิวาทกัน ยังเป็นเหมือนน้ำนมกับน้ำ มองกันด้วยสายตาแห่งคนที่รักใคร่กันเป็นอยู่..”

“..เหล่าสาวกที่อาศัยในพื้นที่ใด ๆ แล้วปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พื้นที่นั้นสถานที่นั้นก็เป็นรมณียสถานขึ้นมาได้..”