เข้าใจว่า ความตายความเกิดเพราะมีเหตุปัจจัยของมัน เป็นของไม่เที่ยง
ความตายในส่วนที่เป็นมรรค ระลึกถึงความตายแล้วให้จบลงที่กุศลธรรม
ฟังเรื่องธิดานายช่างทอหูก ธิดาผู้ระลึกถึงความตาย กับบิดาที่ความตายของลูกทำให้ถึงธรรม

ถ้าเราเข้าใจเรื่องความตายไม่ถูกเราจะทุกข์มาก ถ้าเข้าใจถูก จะออกจากทุกข์ได้ พ้นทุกข์ได้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า “มะระณัมปิ ทุกขัง แม้ความตายก็เป็นทุกข์”

กับคำกล่าวที่ว่า “ความตายนี้เที่ยงแท้แน่นอน ใครเกิดมาแล้วต้องตาย” นั่นคือความตายที่อยู่ในส่วนของทุกขอริยสัจ…ใช่ ถ้ามีการตายต้องมีการเกิด แต่ความตายนี้เราต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมคือ “ความตายเป็นของไม่เที่ยง…“ชรา มรณัง อนิจจัง”

ถ้ามีเหตุเกิดมีเหตุปัจจัยปรุงแต่งกันมาแล้ว มีเหตุแล้ว ผลก็ต้องมี อะไรเป็นเหตุของความแก่และความตาย คำตอบคือการเกิด ถ้ามีการเกิดแล้วความแก่และความตายย่อมมี เพราะมันเป็นการปรุงแต่งเป็นสังขตธรรมมาแบบนี้ มันจึงมีความแน่นอนในความที่มันมีเหตุปรุงแต่งกันมาแล้ว ด้วยการอาศัยการปรุงแต่งนี้ ถ้าเหตุดับ ผลก็ต้องดับ ถ้าการเกิดดับไป การแก่และการตายก็ต้องดับไป พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า “แม้ความแก่และความตายก็ไม่เที่ยง เป็นของไม่เที่ยง”

ความแก่ความตายที่เป็นส่วนในความทุกข์นั้น คือไม่เที่ยงอยู่แล้ว เพราะว่าทุกข์เป็นของที่ไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ถ้าเรามีความเข้าใจในสิ่งที่มีความไม่เที่ยงเป็นทุกข์แล้ว ทำให้เกิดการพ้นทุกข์ได้ นี่เป็นส่วนที่ 2 ที่ความตายนั้นเป็นมรรค เป็นทางที่ดี