เวลามันพัดตัวเราจากปัจจุบันกลายเป็นอดีตไปเรื่อย ๆ สู่ความตาย แต่จิตที่มักคำนึงยึดถือยินดีพอใจถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว หรือคืบคลานต่อไปในอนาคต เห็นสิ่งต่าง ๆ โดยความเป็นของมั่นคงยั่งยืนเที่ยงแท้ มีความเพลินความพอใจ นั่นคือ ง่อนแง่นคลอนแคลน ไม่มีหลัก ไม่มีเกณฑ์ ถูกพัดไปตามกระแส

แต่จะเป็นผู้ฉลาด มีปัญญาเห็นแจ้งตามความเป็นจริง แยกกายแยกใจ เห็นขันธ์ห้าโดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ทั้งในอดีต อนาคต และปัจจุบันด้วย “วางแม้ในสิ่งที่เป็นธัมม์ปัจจุบัน” เริ่มต้นด้วยการตั้งสติ “สติอยู่ตรงไหน ปัญญาอยู่ตรงนั้น” ตั้งสติไว้แล้ว สิ่งต่าง ๆ มันจะแยกจากกัน ทำไปเรื่อย ๆ ตามกระบวนการของมรรค มันจะดับได้เอง “วางความยึดถือแม้ในจิต”