“ปล่อยทิ้งกะปล่อยวางมันไม่เหมือนกันตรงที่ว่า คนเราจะทิ้งอะไร ปล่อยอะไรได้ จะต้องมีฐานมาจากการเห็นตามความเป็นจริงตามกระบวนการ คุณจะปล่อยวางได้ คุณก็จะต้องมีความคลายกำหนัด จะมีความคลายกำหนัดได้ก็ต้องมีความหน่าย ไม่ได้เอาธุระอะไรกับเขา จะมามีความคลายกำหนัดได้ ก็ต้องเห็นตามความเป็นจริงว่ามันก็ต้องเป็นอย่างนี้ มันจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นตามอัตตาได้ จะเห็นตามความเป็นจริงได้ จิตก็ต้องเป็นสมาธิ จิตจะเป็นสมาธิได้ ก็ต้องตั้งสติเอาไว้ ในที่นี้อยู่กับพุทโธ”

สมาธิทำให้เห็นตามความเป็นจริงโดยความเป็นอนัตตาในอายตนะทั้ง 6 ว่า มีเหตุมีปัจจัย เราจะไม่ได้ไปเอาธุระกับมันยอมรับในสภาพที่มันเป็น จะเกิดความหน่ายคลายกำหนัดปล่อยวาง  ให้ระวังโมหะที่จะทำให้กิเลสกลับกำเริบ ทำไปเห็นไปตามมรรค 8 พุทโธจริงเกิด ตามเหตุดั่ง “อิติปิ”