ยังคงอยู่ที่หมวดธรรม 3 ข้อ ติกนิบาต ในตอนนี้ว่าด้วยหมวดแห่งบุคคล 3 ประเภทตั้งแต่ข้อที่ 21-27 พระสูตรที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

สวิฏฐสูตร บุคคลจำพวกไหนประณีตดีกว่ากันระหว่างกายสักขีบุคคล (เข้าใจตน) ทิฏฐิปัตตบุคคล (เข้าใจโลกปรับทิฏฐิ) สัทธาวิมุตตบุคคล (หลุดโลกด้วยศรัทธา) พระผู้มีพระภาคตรัสว่าเป็นเรื่องไม่ใช่จะทำได้ง่ายที่จะตอบว่าใครดีกว่ากัน เพราะล้วนปฏิบัติเพื่อความเป็นอรหันต์ เอาตรงที่จุดจบ ไม่ใช่เอาตรงขาเข้ามา

คิลานสูตร ยก 3 อย่างแรกเกี่ยวกับคนไข้ ยก 3 อย่างหลังเกี่ยวกับคนที่จะได้ฟังธรรม เพราะภิกษุป่วยประเภทที่ 3 พระพุทธเจ้าจึงอนุญาตให้มีการรักษาเช่นกัน เพราะบุคคลประเภทที่ 3 จึงอนุญาตให้มีการแสดงธรรม เพราะเมื่อได้ยินธรรมะจะรู้ธรรมได้

สังขารสูตร เพราะปรุงแต่งทางกายวาจาใจมาไม่เหมือนกันจึงทำให้ไปอยู่ในภพที่ต่างกันคือ ทุกข์มาก สุขมาก และสุขทุกข์พอ ๆ กัน เหตุปัจจัยนี้เราเลือกที่จะสร้างได้

พหุการสูตร ถ้าเราอาศัยบุคคลใดแล้วทำให้เรามีความดี3อย่างนี้ บุคคลนั้นมีอุปการะมากเพราะทำให้ความทุกข์ของเราหมดไปเท่าพื้นปฐพี คือบุคคลที่อาศัยแล้วทำให้เรามีโสตาปัตติยังคะ 4 เป็นโสดาปัตติมรรค, อาศัยแล้วทำให้รู้อริยสัจเป็นโสดาปัตติผล และอาศัยแล้วทำให้เกิดอรหัตผล

วชิรูปมสูตร บุคคลที่มีจิตเหมือนแผลเก่าคือโกรธง่าย บุคคลที่มีจิตเหมือนฟ้าแลบคือเห็นอริยสัจ 4 แสงสว่างแว๊ปเดียวในความมืด เป็นโสดาบัน และบุคคลที่มีจิตเหมือนเพชรคือจิตพระอรหันต์ ไม่มีสิ่งใดมาทำลายได้บดขยี้กิเลสได้หมด

เสวิตัพพสูตร ควรคบใครให้เอาศีล สมาธิ ปัญญาเป็นเงื่อนไขในการพิจารณา และใช้เมตตาอนุเคราะห์ในคนที่ต่ำกว่า

ชิคุจฉิตัพพสูตร รังเกียจบุคคลที่ทุศีลเน่าในมิจฉามรรค, วางเฉยในคนที่มักโกรธ, ควรเสพคบในบุคคลที่มีศีลมีธรรมจะทำให้เราสูงขึ้น