เมื่อมีเรื่องราวหรือผัสสะอะไรต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของโลก มีผัสสะที่น่าพอใจบ้าง ไม่น่าพอใจบ้าง ที่เป็นความสุขบ้าง ความทุกข์บ้างแล้ว เราเจอะเจอแล้วทรงจิตของเราให้อยู่ในมรรคให้ดี อันนี้เป็นธรรมดา เป็นข้อสอบที่ผู้ปฏิบัติธรรมทุกคนที่ได้ตัดสินใจแล้วว่า ชีวิตนี้ ฉันจะอยู่ในทาง ฉันจะอยู่ในมรรคนี้ต้องเจอแน่นอน…เพราะบททดสอบมีอยู่ต่อเนื่อง ผัสสะมีมากระทบอยู่ตลอดเวลา เราจึงต้องฝึกแล้ว ฝึกอีก

พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ได้ทรงพระราชนิพนธ์เอาไว้ว่า “ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ จะประดับดอกไม้ หอมหวาน ยวนจิตไซร้ ไป่มี” ซึ่งสอดคล้องกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า “ขึ้นชื่อว่าความสุข ความสำเร็จแล้ว ใคร ๆ จะบรรลุได้โดยง่าย ๆ คือ ได้มาโดยสบาย ๆ เป็นไม่มี ความสุขความสำเร็จ เป็นสิ่งที่ใคร ๆ บรรลุได้ด้วยความพยายาม ได้ด้วยความลำบาก ด้วยความยาก”

และถ้าเมื่อเราเจอเรื่องราวที่เป็นความสุขบ้าง ความทุกข์บ้างแล้ว สิ่งที่จะรักษาให้เราอยู่ตามทางได้ นั่นคือ มรรค 8 เราจะมีกำลังใจปฏิบัติตามมรรค 8 ได้ เราต้องมีความมั่นใจ มีศรัทธาใน พุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นกำลังใจที่จะให้เราปฏิบัติมาตามทางนี้ได้

*ได้ยกเรื่องราว 2 เรื่องขึ้นมาประกอบ ในเรื่องของแม่เรือนชื่อเวเทหิกา และ นายสุปปพุทธะผู้เป็นโรคเรื้อน

“…ถ้าเรายังไม่ได้เจอผัสสะเรื่องราวอะไรบางทีมันก็ธรรมดา ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้น เป็นคนสงบเสงี่ยมจัด เป็นคนเจียมตัวจัด เป็นคนเยือกเย็นจัด ได้ก็เพียงชั่วเวลาที่ยังไม่ได้กระทบถ้อยคำอันไม่เป็นที่พอใจเท่านั้น ภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อใดเธอกระทบถอยคำอันไม่เป็นที่พอใจเข้าก็ยังเป็นคนสงบเสงี่ยม เจียมตัว เยือกเย็นอยู่ได้ ภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้นแหละควรทราบว่า เธอเป็นคนสงบเสงี่ยม เป็นคนเจียมตัว เป็นคนเยือกเย็นจริง”…กกจูปมสูตร อุปมาว่าด้วยเลื่อย