5 พระสูตรในกุสินารวรรค เริ่มด้วยกุสินารสูตร ธรรม 3 ข้อที่ควรมี คือ ความคิดหลีกออกจากกาม ความคิดในทางไม่พยาบาท และในทางไม่เบียดเบียน  ส่วนธรรม 3 ข้อที่ควรละก็ตรงข้ามกัน ทานที่ให้ก็จะมีอานิสงส์ต่างกัน จะได้แง่คิดที่ว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ควรจะมีคุณธรรมทั้งสามข้อนี้ เพื่อที่ว่าเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติก็จะยังผาสุกอยู่ได้ อย่ามองที่ความลำบากหรือความสบาย ให้มองที่กุศลธรรมที่มี เราจะผ่านวิกฤติไปได้โดยใช้สติความเพียรเป็นเครื่องมือ ในภัณฑนสูตร คุณธรรม 3 ข้อเหมือนข้างต้นที่เมื่อมีแล้ว จะทำให้กลุ่มนั้นเหมือนน้ำนมผสมกับน้ำ มีข้อที่น่าสนใจก็คือ ในองค์กรใดก็ตามที่ใช้กามพยาบาทหรือเบียดเบียนในการรวมกลุ่ม กลุ่มนั้นดูเหมือนรวมกันได้ดี ก็อาจจะลงกันได้อยู่แต่ไม่ยั่งยืน เพราะด้วยความที่ไม่งดงามในเบื้องต้นท่ามกลางและที่สุด ในโคตมเจติยสูตร การที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมด้วยความรู้ยิ่ง มีเหตุผลพร้อม มีความน่าอัศจรรย์ จึงก่อให้เกิดผล คือ ความยินดีในพุทธธัมสงฆ์ ในภรัณฑุกาลามสูตร ด้วยความสามารถที่แตกต่างกันของศาสดาจุดประสงค์จึงต่างกันไป ศาสดา 2 พวกแรกเข้าใจว่าการเข้ารูปฌานอรูปฌานได้นั่นคือ นิพพานของตน แต่ในระดับสัมมาสัมพุทธะ คือ การกำหนดรู้ทั้งกามรูป และเวทนา กำหนดรู้ คือ ปริญญายะ เป็นขั้นสูงสุด ในหัตถกสูตร เป็นกล่าวถึงความไม่รู้จักอิ่มรู้จักพอในการเห็นพระพุทธเจ้าในการฟังธรรม และการบำรุงสงฆ์ของหัตถกเทพบุตร