รักก็เป็นราคานุสัย ชังก็เป็นปฏิฆานุสัย ไม่เข้าใจก็เป็นอวิชชานุสัย เกิดขึ้นมาแล้ว จิตมันก็เกิด สั่งสม รู้สึกว่าเป็นตัวตน แล้วปฏิฆะมันดับได้ไหม ราคะมันดับไหม เออมันดับได้ เข้าใจแล้ว มันไม่เที่ยงเป็นอนัตตา เห็นความไม่เที่ยงในสิ่งนั้น มันหลุดเลย แม้แต่จิตของเรานี้ด้วย เดี๋ยวเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างนี้เดี๋ยวเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น วางความยึดถือในจิตใจของเรานั้น วางซะ! 

วางความยึดถือ เข้าใจแบบนี้ คือ ปัญญา มีวิชชามีปัญญามีแสงสว่างเกิดขึ้น อวิชชานุสัยอยู่ไม่ได้ มันต้องหลุดออกไป ที่มีอยู่ ต้องดับไป ถ้าเหตุแห่งอวิชชามีอยู่ อวิชชาก็ต้องมีอยู่ ถ้าเหตุแห่งอวิชชาดับไป มันจะไปอยู่ได้หรือ

อะไรที่เที่ยงไม่มีในโลก อะไรที่ไม่เที่ยงหาได้อยู่ในโลก สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนในโลกที่มันปรุงแต่งเงื่อนไขปัจจัยกันมา ไม่มีหรอกสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน เข้าใจแบบนี้ คือ มีความรู้มีวิชชา คุณจะอยู่เหนือโลกนี้ได้ ออกจากโลกได้ ไปสู่ในสภาวะที่ไม่มีเงื่อนไขไม่มีปัจจัย ได้นะ