มรดกที่ได้รับมาจากพระพุทธเจ้า เมื่อรับมาแล้วเราเป็นอามิสทายาทหรือธรรมทายาท
แม้จะได้รับเป็นอามิสมา ก็มองให้เห็นธรรมะในอามิสนั้น หรือเห็นใครทำบุญด้วยอามิสสิ่งของปัจจัยต่าง ๆ ก็ให้มองให้เห็นธรรมะ ให้ระลึกถึงสิ่งดี ๆ ในสิ่งนั้น ๆ เช่น ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญาที่เขามี นั่นคือเรามีสัมมาสติ มีสติปัฏฐานสี่
การปฏิบัติและผลของการปฏิบัตินั้นเป็นไปตามลำดับขั้นเปรียบเหมือนดั่งไหล่ทะเล เมื่อมีศรัทธาจนก่อให้เกิดการปฏิบัติ ไล่ไปจากศีล สมาธิ และปัญญา สั่งสมไปตั้งแต่เปลือก กระพี้ จนถึงแก่น อย่าไปค้างเติ่งที่จุดใดจุดหนึ่ง ศีลเปรียบเหมือนเปลือก สมาธิเป็นกระพี้เป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงให้แก่นแน่นขึ้นเป็นวิมุต ทำจนเป็นบริกรรม มีนิพพานเป็นที่สุดรอบ ทำมาตามลำดับ

“ถ้าเรายังได้รับมรดกที่เป็นอามิสอยู่ ให้พิจารณาดูว่าในสิ่งนี้มีธรรมะอย่างไร หาธรรมะให้เจอ ให้เป็นผู้ที่รับมรดกโดยธรรม..จะหาพุทโธไม่ได้หาจากข้างนอก สิ่งที่เป็นอามิสใด ๆ ถ้ามีอยู่ให้ย้อนกลับหาเข้ามาในใจ ให้รับธรรมะเข้ามาปฏิบัติ เป็นธรรมทายาท มีธรรมเป็นที่พึ่ง มีธรรมเป็นสรณะ มีตนเป็นที่พึ่ง มีตนเป็นสรณะ ให้ลึกซึ้งลงมาถึงแก่นให้ได้”