“กาม” คือ ความกำหนัดยินดีพอใจที่เกิดขึ้นอยู่ในจิตใจของเรา วัตถุภายนอกที่วิจิตรพิสดารเลิศหรูดูดี นั่นไม่ใช่กาม นั่นเรียกว่ากามวัตถุ แต่ความเพลิดความพอใจความยินดีในกามวัตถุนั้นเรียกว่ากาม เราจะเห็นคุณของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ต้องเห็นโทษของมันด้วย เห็นทั้งข้อดีข้อเสีย แบบนี้จึงจะมีความรอบคอบมีความรัดกุม มีไหวพริบ มีปฏิภาณ มีปัญญา มีโยนิโสมนสิการ อะไรที่จะดีโดยส่วนเดียวไม่มี จะรู้ว่า “โทษของกาม” หนึ่งในอนุปุพพิกถา คือ สิ่งที่พระพุทธเจ้าแสดงไปตามลำดับเป็นอย่างไร มีโทษอย่างไร กามที่มันยึดโยงเราทุกทางเป็นอย่างไร ติดตามฟังได้ในเอพิโสดนี้

“..กามเปรียบกับเขียงสับเนื้อ เปรียบกับท่อนกระดูก เปรียบชิ้นเนื้อที่นกคาบไป เปรียบกับคบเพลิงหญ้า เปรียบกับหลุมถ่านเพลิง เปรียบด้วยของในความฝัน เปรียบเหมือนของยืมเขามา เปรียบกับผลไม้บนต้น เปรียบกับรูรั่วของเรือ เปรียบด้วยคลื่น..”