พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วโดยหลายแง่หลายมุมว่า กามทั้งหลาย มีรสอร่อยน้อย มีทุกข์มาก มีเรื่องทำให้คับแค้นใจมาก และมีโทษอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ควรเปรียบเทียบด้วยท่อนแห่งกระดูก, ควรเปรียบด้วยชิ้นเนื้อ , ควรเปรียบด้วยคบเพลิงหญ้า, ควรเปรียบด้วยหลุมถ่านเพลิง, ควรเปรียบด้วยความฝัน, ควรเปรียบด้วยของยืม, ควรเปรียบด้วยผลไม้, ควรเปรียบด้วยเขียงสับเนื้อ . ควรเปรียบด้วยหอกและหลาว, และควรเปรียบด้วยหัวงูพิษ… (ความอร่อยที่ไม่คุ้มกับความทุกข์)

เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ. ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว, เขาเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย เพราะการแตกสลายแห่งกาย…(ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม)

ถ้าเราเห็นโทษของสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว เราจะละกามนี้ได้ เราจะสลัดมันออกไปจากจิตใจของเราได้ เริ่มต้นตั้งสติเอาไว้ มีสมาธิตั้งเอาไว้ เมื่อมีผัสสะมากระทบ มันไม่ได้กระเทือน ไม่ได้ทำให้เรามีกามสุขเกิดขึ้นได้ เพราะว่าเรามีสุขจากสมาธิ มีสุขจากภายในแล้วนั่นเอง