Q: ถ้าเป็นคนที่เรียนมาสูง มั่นใจตนมาก ควรใช้ธรรมะข้อใดเตือนตนไม่ให้หลงไปในตน
A: ปัญหาของคนลักษณะนี้คือ “ทิฏฐิมานะ” หรือความยึดมั่นในความคิดเห็นของตนเอง ไม่ฟังผู้อื่น ธรรมะสำคัญที่ควรนำมาเตือนตนคือ “หิริโอตตัปปะ” ซึ่งหมายถึงความละอายและเกรงกลัวต่อบาป หากมีหิริโอตตัปปะมาก ก็จะสามารถเตือนตนด้วยตนได้ แต่หากมีน้อยก็ต้องอาศัยกัลยาณมิตรหรือบทเรียนจากผลของการกระทำมาช่วยเตือนสติ ส่วนการปริญญาการศึกษานั้นเป็นเรื่องของปริยัติ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่มีความรู้ปริยัติมาก จะมีปัญญาในการพ้นทุกข์เสมอไป

Q : นั่งสมาธิทบทวนทุกคืนจะช่วยแก้ไขในกรณีนี้ได้มากน้อยเพียงใด
A : การนั่งสมาธิเป็นสิ่งดี ทำให้จิตใจสงบและเป็นสมาธิ เมื่อจิตสงบลง กิเลสต่าง ๆ รวมถึงทิฏฐิมานะจะลดน้อยลง และอาจเกิดช่วงเวลาที่ทำให้เราฉุกคิดและสลัดความเห็นที่ผิด ๆ หรือความยึดมั่นถือมั่นในตนเองออกไปได้

Q: สันโดษพอใจตามฐานะเป็นอย่างไร
A: “สันโดษ” คือความพอใจในสิ่งที่ตนมีและได้มาโดยชอบธรรม, “การพอใจตามฐานะ” หมายถึงการปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับสถานภาพของตนเอง ไม่ฟุ่มเฟือยเกินควร เช่น กรณีของพระสงฆ์ ควรปฏิบัติตนให้สมกับสมณสารูป (เหมาะสมกับความเป็นสมณะ) แม้จะได้รับของที่มีมูลค่าสูง ก็ต้องพิจารณาถึงเจตนาของผู้ให้และความเหมาะสมก่อนนำมาใช้ โดยยึดหลักการที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติ คือรับสิ่งของเพื่ออนุเคราะห์และรักษาศรัทธาของผู้ให้ โดยพิจารณาว่าสิ่งนั้นไม่ก่อให้เกิดคำติเตียนและเหมาะสมกับธรรมวินัย

Q: จำนวนภิกษุในวันมาฆบูชานั้นเท่าไหร่กันแน่
A: แม้เราจะคุ้นเคยกับตัวเลข 1,250 รูป แต่เมื่อคำนวณจำนวนพระอรหันต์ทั้งหมดนับตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้จนถึงวันมาฆบูชาแล้ว จะมีจำนวนประมาณ 1,345 รูป ตัวเลขที่แตกต่างกันนี้อธิบายได้ว่า ในวันนั้นมีพระอรหันต์บางส่วนที่ไม่ได้มาประชุมด้วย เช่น คณะพระภิกษุ 60 รูปแรกที่พระพุทธเจ้าส่งไปประกาศศาสนาในทิศทางต่างๆ ดังนั้น ตัวเลข 1,250 รูป จึงอาจเป็นจำนวนที่นับเฉพาะผู้ที่เดินทางมาประชุม หรือเป็นตัวเลขโดยประมาณ

Q: ความทุกข์ที่เป็นไปสามรอบเป็นอย่างไร
A: “ความทุกข์ที่เป็นไปในสามรอบ” คือขั้นตอนการทำความเข้าใจในเรื่อง “ทุกข์” ตามหลักอริยสัจ 4 ซึ่งมี 3 ระดับ ดังนี้

รอบที่ 1 คือการเข้าใจว่า “ทุกข์” คืออะไร เข้าใจว่าทุกข์มันทนอยู่ได้ยาก เป็นสภาพวะที่เป็นอนัตตา ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน

รอบที่ 2 คือ รู้หน้าที่ที่ต้องทำกับทุกข์ ต้องเข้าใจ รอบรู้ รู้ว่าเราควรทำอะไรกับทุกข์ ซึ่งหน้าที่นี้ต่างจากสาเหตุของทุกข์ (ตัณหา) ตัณหาต้องละ คือ “ทุกข์ควรรอบรู้ ตัณหาควรละ”

รอบที่ 3 การรู้ว่าทำเสร็จแล้ว คือ รู้ว่าเราได้ทำความเข้าใจทุกข์อย่างสมบูรณ์แล้ว ผลคือเราจะ “อยู่กับทุกข์ได้โดยที่ใจไม่เป็นทุกข์” เหมือนน้ำที่กลิ้งบนใบบัว คือสัมผัสกับสภาวะต่างๆ แต่ใจไม่เปียกหรือเศร้าหมองไปกับมัน


Tstamp

[02:25] ถ้าเป็นคนที่เรียนมาสูง มั่นใจตนมาก ควรใช้ธรรมะข้อใดเตือนตนไม่ให้หลงไปในตน
[20:45] นั่งสมาธิทบทวนทุกคืนจะช่วยแก้ไขในกรณีนี้ได้มากน้อยเพียงใด
[24:12] สันโดษพอใจตามฐานะเป็นอย่างไร
[36:06] จำนวนภิกษุในวันมาฆบูชานั้นเท่าไหร่กันแน่
[41:25] ความทุกข์ที่เป็นไปสามรอบเป็นอย่างไร