ช่วงไต่ตามทาง: เป็นประสาท เพราะสามีมีหญิงอื่น

  • ผู้หญิงท่านหนึ่ง เจอผัสสะที่ไม่น่าพอใจอย่างมาก แบบไม่ทันตั้งตัว จับได้ว่าสามีมีหญิงอื่น เกิดอาการมึน นอนไม่หลับ หัวเราะ ร้องไห้ หลายความคิดเกิดขึ้น คิดวน หาทางออกไม่เจอ จะเป็นประสาท

เปรียบเหมือนกับ “ถูกยิงด้วยลูกศรอาบยาพิษ”

  • ลูกศรอาบยาพิษ = ตัณหา (ราคะ โทสะ โมหะ)
  • พิษ = อวิชชา
  • แผล = ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (ต้องใช้สติ เป็นเครื่องมือตรวจหาว่าลูกศรที่แทงอยู่ตรงไหน)
  • มีดปาดแผลเอาลูกศรออก = ปัญญาที่มีความคม
  • บีบหนองที่แผลออก = กำจัดสิ่งไม่ดีออก อย่าไปทำอีก เช่น การด่า การคิดไม่ดี การทำร้ายผู้อื่น
  • ยาใส่แผล = เจริญศีล สมาธิ ปัญญา เมตตา กรุณา อุเบกขา
  • ไม่ให้แผลกำเริบ ไม่กินของแสลง ไม่ให้แผลโดนลมโดนแดด = อย่าทำสิ่งที่เป็นอกุศลเพิ่ม และอย่าคิด อย่าคุย อยู่ห่าง ๆ สิ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดความโกรธนั้นขึ้นมาอีก
  • ตัวเรา คือ ผู้ที่รู้ว่าเจ็บตรงไหนได้ดีที่สุด พระพุทธเจ้าให้ยาไว้แล้ว ก็ให้ใส่ยาให้ตรงแผลที่สุด ก็จะหายจากโรค (ความเข้าใจผิด) นี้ได้
  • ธรรมะรักษานี้ แม้จะต้องเจ็บบ้าง แต่ถ้าไม่รีบรักษา เชื้ออาจลุกลาม จนต้องตัดอวัยวะหรือเสียชีวิต
  • ทางที่ดี ควรป้องกันไม่ให้ถูกแทงด้วยลูกศรอาบยาพิษแต่แรก โดยสำรวมอินทรีย์ รักษาศีล ไม่เพลิน ไม่หลง เห็นตามความเป็นจริง

ความรักแบบเมตตาหรือราคะ

  • “ความรัก” อยู่ตรงไหน ภัยอันตรายอยู่ตรงนั้น เพราะสิ่งที่รักที่พอใจ ย่อมเปลี่ยนแปลงไป ไม่เที่ยง นี่คือความจริง
  • ต้องมีสติ ทำจิตให้นิ่งเป็นสมาธิ จะเกิดปัญญาเห็นตามความเป็นจริง แยกได้ว่าเป็นความรักแบบเมตตาหรือราคะ ให้ถอนราคะออก เหลือไว้แต่เมตตา
  • ความจริงเป็นของดี กุศลธรรมเกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าสุขเวทนาหรือทุกขเวทนา ก็ให้เข้าใจว่าสุขทุกข์เป็นเรื่องธรรมดา และเลือกที่จะสร้างสิ่งที่เป็นกุศล

ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ: สัญญาณบ่งบอกความบ้า
1.ทางด้านพฤติกรรม = นอนไม่หลับ นอนมากเกินไป เบื่ออาหาร กินมากขึ้น ใช้จ่ายมากขึ้น หาอบายมุขเพื่อให้เกิดความสุขในตอนนั้น เช่น สุรา บุหรี่ ยาเสพติด เล่นโซเซียลมากเกินไป

  1. ทางด้านอารมณ์ = เพ้อ อาละวาด เครียดตลอดเวลา หวาดระแวง กังวลใจไปหมด
  2. ทางด้านความคิด = จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ ตัดสินใจในเรื่องเล็กน้อยไม่ได้ คิดว่าจะมีคนทำร้าย เห็นภาพหลอน ได้ยินเสียงแว่ว คิดทำร้ายตัวเอง

โรคประสาทมีในทุกคน

  • คนบ้า คือ คนที่ยังมีราคะ โทสะ โมหะ
  • จะเกิดความวิปลาส 4 อย่าง
  1. เห็นสิ่งที่ไม่เที่ยง ว่าเที่ยง
  2. เห็นสิ่งที่เป็นทุกข์ ว่าเป็นสุข
  3. เห็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน (อนัตตา) ว่าเป็นตัวเราของเรา
  4. เห็นสิ่งไม่งาม (อสุภะ) ว่าเป็นของงาม

ราคะ โทสะ โมหะ ทำให้ไม่เป็นตัวเอง
ราคะ = ความหิว ความต้องการ
โทสะ = ความร้อน ความโกรธ ความไม่พอใจ
โมหะ = ความไม่เข้าใจ ความมึน ความมืด

วิธีการกำจัดราคะ โทสะ โมหะ

  • ใช้สติ = ตรวจหาลูกศรอาบยาพิษ
  • ใช้ปัญญา = มีดปาดแผลเอาลูกศรออก
  • ใช้ศีล สมาธิ ปัญญา เห็นตามความเป็นจริง เมตตา กรุณา อุเบกขา = ใส่ยาที่แผลทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
  • แผลหาย = กำจัดอวิชชาซึ่งเป็นรากของราคะ โทสะ โมหะ ออกไปจากจิตได้ ไม่วิปลาสอีกต่อไป เป็นผู้ที่พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง

Tstamp

[06:25] ไต่ตามทาง: เป็นประสาทเพราะสามีมีหญิงอื่น
[14:00] เปรียบเหมือนโดนลูกศรอาบยาพิษ
[29:15] ความรักแบบเมตตาหรือราคะ
[40:50] พุทธภาษิต เรื่อง “ผู้เห็นธรรมะเท่ากับเห็นพระพุทธเจ้า”
[42:35] ปรับตัวแปรแก้สมการ: สัญญาณบ่งบอกความบ้า
[50:30] โรคประสาทมีในทุกคน
[53:40] ราคะ โทสะ โมหะ