จิตใจของพระนางมหาปชาบดีโคตมีเต็มไปด้วยความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะบวชเป็นภิกษุณี เธอได้แสดงความประสงค์ที่จะบวชต่อพระพุทธเจ้าหลายครั้ง ดั่งในพระสูตรที่จะหยิบยกมากล่าวนี้
ข้อที่ #51_โคตมีสูตร ว่าด้วยพระนางปชาบดีโคตมีทูลขออุปสมบท ในพระสูตรนี้พระนางมหาปชาบดีโคตมี มีความปรารถนาที่จะออกบวชโดยได้แสดงไว้ถึง 2 วาระด้วยกัน คือ วาระแรก ที่กรุงกบิลพัสดุ์ พระนางทูลขอกับพระพุทธเจ้าด้วยตัวเองถึง 3 รอบแต่ก็โดนปฏิเสธตกหมดทั้ง 3 รอบ และในวาระต่อมาที่กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เขตกรุงเวสาลี พระนางได้ปลงผม ห่มผ้ากาสายะ และออกเดินทางไปหาพระพุทธเจ้าถึงที่นั่นเพื่อทูลขออุปสมบท และในวาระนี้เองด้วยอุบายของพระอานนท์ในการช่วยเข้าไปกราบทูลขอพระพุทธเจ้า พระนางจึงได้อุปสมบทเป็นภิกษุณีแต่ต้องรับ “ครุธรรม 8 ประการ” ไปปฏิบัติ พระนางยินดีที่จะปฏิบัติตาม
คุรุธรรม 8 ประการ มีอะไรบ้าง
- แม้บวชมานานนับร้อยปีก็ต้องกราบไหว้ภิกษุ แม้บวชในวันนั้น
- ต้องจำพรรษาอยู่ในวัดที่มีภิกษุ
- ต้องไปถามวันอุโบสถและรับฟังโอวาทจากภิกษุทุกกึ่งเดือน
- ต้องปวารณาในสงฆ์สองฝ่ายหลังจำพรรษาแล้ว (ออกตัวให้ติเตียนได้)
- ต้องประพฤติมานัต (ออกจากกรรม) ในสงฆ์สองฝ่ายเมื่อต้องอาบัติหนัก
- ต้องเป็นสิกขมานา 2 ปี ก่อนจึงขออุปสมบทในสงฆ์สองฝ่ายได้
- ต้องไม่บริภาษด่าว่าภิกษุไม่ว่ากรณีใด ๆ
- จะว่ากล่าวตักเตือนภิกษุไม่ได้ แต่ภิกษุว่ากล่าวตักเตือนได้
*และในตอนท้ายพระสูตรพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงถึงเหตุผลไว้ว่าทำไมถึงไม่ให้สตรีบวชและเหตุที่ต้องบัญญัติคุรุธรรม
ข้อที่ #52_โอวาทสูตร ว่าด้วยคุณสมบัติของภิกษุผู้จะสอนภิกษุณี ต่อเนื่องมาจากคุรุธรรมในข้อที่ว่า “ต้องรับฟังโอวาทจากภิกษุทุกกึ่งเดือน” พระสูตรนี้จึงว่าด้วยคุณสมบัติของภิกษุผู้ที่จะสอนภิกษุณีต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
- เป็นผู้มีศีล สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
- เป็นพหูสูต แทงตลอดดีด้วยทิฏฐิ
- เป็นผู้ทรงจำ จำแนก ปาติโมกข์ทั้งสองได้ดี
- เป็นผู้มีวาจางาม เจรจาถ้อยคำไพเราะ ไม่มีโทษ
- เป็นผู้สามารถชี้แจงภิกษุณีสงฆ์ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทานให้อาจหาญร่าเริงด้วยธรรมีกถา
- ที่รักเป็นที่ชอบใจของภิกษุณีโดยมาก
- ไม่เคยประพฤติล่วงครุธรรม
- เป็นผู้มีพรรษา 20 หรือเกินกว่า
ข้อที่ #53_สังขิตตสูตร ว่าด้วยลักษณะธรรมวินัยโดยย่อ พระนางมหาปชาบดีโคตมีกราบทูลขอธรรมะโดยย่อที่เมื่อฟังแล้วจะสามารถนำไปปฏิบัติได้ดี (บรรลุธรรมได้เลย) พระองค์ได้ทรงแสดงธรรมไว้เป็นคู่หรือสองฝั่ง
ธรรมที่เป็นฝั่งของพระผู้มีพระภาคเจ้า ≠ นั่นไม่ใช่ธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า
1. ธรรมที่เป็นไปเพื่อคลายความกำหนัด ≠ ธรรมที่เป็นไปเพื่อกำหนัด
2. …เพื่อความพราก ≠ …เพื่อความประกอบไว้
3. …เพื่อการไม่สะสม ≠ …เพื่อการสะสม
4. …เพื่อความมักน้อย ≠ …เพื่อความมักมาก
5. …เพื่อความสันโดษ ≠ …เพื่อความไม่สันโดษ
6. …เพื่อความสงัด ≠ …เพื่อความคลุกคลีหมู่คณะ
7. …เพื่อปรารภความเพียร ≠ …เพื่อความเกียจคร้าน
8. …เพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย ≠ …เพื่อความเป็นคนเลี้ยงยาก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต โคตมีวรรค
Tstamp
[04:28] โคตมีสูตร ว่าด้วยพระนางปชาบดีโคตมีทูลขออุปสมบท
[07:00] การทูลขออุปสมบทใน “วาระแรก” ที่กรุงกบิลพัสดุ์
[16:50] การทูลขออุปสมบทใน “วาระต่อมา” ที่กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เขตกรุงเวสาลี
[18:45] การบัญญัติคุรุธรรม 8 ประการ
[33:40] โอวาทสูตร ว่าด้วยคุณสมบัติของภิกษุผู้จะสอนภิกษุณี
[41:34] สังขิตตสูตร ว่าด้วยลักษณะธรรมวินัยโดยย่อ