สูตร#1 อรณวิภังคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่พระเชตวัน กรุงสาวัตถี โดยมีพระประสงค์ให้ภิกษุเหล่านั้นปฏิบัติตามธรรมที่ไม่มีกิเลส เว้นธรรมที่มีกิเลส

ทรงตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า

1) ภิกษุไม่พึงประกอบเนือง ๆ ซึ่งสุขในกาม อันทราม เป็นของชาวบ้านเป็นของปุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และไม่พึงประกอบเนือง ๆ ซึ่งอัตตกิลมถานุโยค(การประกอบความลำบากเดือดร้อนแก่ตน) อันเป็นทุกข์ ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์

2) มัชฌิมาปฏิปทาที่ไม่เอียงเข้าใกล้ที่สุด 2 อย่างนั้น ที่ทรงได้ตรัสรู้แล้ว อันเป็นปฏิปทาก่อให้เกิดจักษุ ก่อให้กิดญาณ เป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน

3) รู้จักการยกย่องและการตำหนิ ครั้นรู้แล้ว ไม่พึงยกย่อง ไม่พึงตำหนิ พึงแสดงธรรมเท่านั้น

4) พึงรู้การตัดสินความสุข ครั้นรู้แล้ว พึงประกอบเนือง ๆ ซึ่งความสุขภายใน สุขนี้เรียกว่า เนกขัมมสุข

5) ไม่พึงกล่าวความลับ ไม่พึ่งกล่าวคำล่วงเกินต่อหน้า เมื่อไม่รีบร้อนจึงพูด เมื่อรีบร้อนไม่ควรพูด ไม่พึงยึดภาษาท้องถิ่น ไม่พึงละเลยคำพูดสามัญ (คำที่คนทั่วไปใช้พูดกัน)

แล้วทรงยกตัวอย่าง กุลบุตรผู้มีนามว่าสุภูติ ได้ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติเพื่อไม่มีกิเลสแล้ว

สูตร#2 นิพเพธิกสูตร ว่าด้วยธรรมบรรยายที่เป็นเหตุชำแรกกิเลส ทรงสอนให้ภิกษุทั้งหลายทราบสภาวธรรมต่าง ๆ รวม 6 ประการดังนี้ (1) กาม เหตุเกิดแห่งกาม ความต่างกันแห่งกาม ความดับแห่งกาม ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งกาม (2) เวทนา… (3) สัญญา… (4) อาสวะ… (5) กรรม… (6) ทุกข์… ทรงอธิบายขยายความแต่ละประการอย่างพิสดาร


Tstamp

[03:44] อรณวิภังคสูตร ว่าด้วยการจำแนกธรรมที่ไม่มีกิเลส (323)
[06:44] กามสุขและการทรมานตนให้ลำบาก
[09:57] อริยมรรคมีองค์ 8
[11:27] รู้จักการยกย่องและตำนิ
[20:58] การวินิจฉัยความสุข
[24:51] ความลับคำล่วงเกิน
[27:05] คำพูดที่รีบร้อน
[28:25] ไม่พึงละเลยคำพูดสามัญ
[42:20] นิพเพธิกสูตร พระสูตรว่าด้วยธรรมบรรยายชำแรกกิเลส (63)