Q: มองอย่างไรให้เห็นโมหะ?

A: โมหะ ที่ออกมาในช่องทางใจ คือ มืด เห็นไม่ชัดเจน มองไม่เห็นไม่เข้าใจ จึงมีความวิปลาส (ความเข้าใจผิด) เข้าใจว่าสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง เข้าใจว่าสุขเวทนาเป็นสุข เป็นเหมือนภาพลวงตา ไม่เข้าใจว่าเมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ไม่เข้าใจปฏิจจสมุปบาท / ตัวอย่างอื่นๆ เช่น ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เห็นความตายซ่อนอยู่ไหม ถ้าไม่เห็น ก็มีโมหะมาก

      จะกำจัดโมหะ ได้ด้วย “ปัญญา” เป็นดั่งแสงสว่าง เหมือนไฟฉาย ที่จะสว่างมากหรือน้อย อยู่ที่กำลังปัญญา เมื่อเห็นความไม่เที่ยงของสิ่งต่างๆ ได้แล้ว จะสามารถกำจัดโมหะได้ จะเป็นปฏิปทาอันเป็นที่สบาย ให้ไปถึงนิพพาน ข้างหน้าได้

Q: การเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา อย่างไหนจะดีกว่ากัน?

A: เทวดาจะบรรลุธรรมได้ง่าย หากอ้างอิงจากพระสูตรที่เกี่ยวข้องกับเทวดา จะเป็นพระสูตรสั้นๆ ที่เมื่อฟังแล้วจะบรรลุธรรมได้เร็ว ซึ่งการที่เทวดาบรรลุธรรมได้เร็ว ส่วนหนึ่งอาจเพราะเค้ามีปัญญา มีทาน ศีล ภาวนา สั่งสมบุญมามาก จึงเกิดเป็นเทวดา และพอได้ฟังธรรม ก็ทำให้บรรลุธรรมเร็ว

Q: การเริ่มปฏิบัติธรรม และการสวดมนต์ ควรสวดบทใด?

A: การปฏิบัติธรรม หากเรามีความเพียร ตั้งใจปฏิบัติ ลงมือทำจริง แน่วแน่จริง ทุกอย่างฝ่าฟันได้ / การสวดมนต์ จะสวดบทไหนก็ได้ จุดประสงค์ของการสวดมนต์ คือ ทำให้จำได้และสวดแล้วทำให้จิตเป็นสมาธิ 

Q: ความหมายของคำว่า “ดวงตาเห็นธรรม”? 

A: ดวงตาเห็นธรรม มาจากคำว่า “ธรรมจักษุ” เป็นคำที่อยู่ในปฐมเทศนา “สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา” นี่คือ ดวงตาที่ต้องเห็น คือ เห็นได้ด้วยธรรมจักษุ เห็นถึงความไม่เที่ยง ซึ่งดวงตาที่เห็นแสงสว่างของแต่ละคน เห็นไม่เท่ากัน โดย เหตุปัจจัย ของการมีดวงตาเห็นธรรม คือ มรรค 8 ผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรมอย่างน้อยจะได้ “โสดาปฏิผล”

Q: พละ 7? 

A: ตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นพละ 5 (ศรัทธา วิริยะสติ สมาธิ ปัญญา) และเพิ่มมาอีก 2 ข้อ คือ หิริ และโอตตัปปะ


Timeline
[02:51] มองอย่างไรให้เห็นโมหะ?
[18:41] การเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา อย่างไหนจะดีกว่ากัน?
[29:46] การเริ่มปฏิบัติธรรม และการสวดมนต์ ควรสวดบทใด?
[41:07] ความหมายของคำว่า “ดวงตาเห็นธรรม”
[49:32] พละ 7 เป็นไฉน