00:00
1X
Sorry, no results.
Please try another keyword
- 4 คลังพระสูตรคนที่มีการได้เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ เรื่องดี ๆ ในชีวิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นการได้ลาภมาแล้วนั่นคือบุญของเรา นั่นคือดีแล้ว อย่าให้เสื่อมฉิบหาย ถอยหลังลง อย่าให้มันดึงเราลงต่ำ สิ่งที่เป็นตัวดึงให้เราลงต่ำอยู่ในลาภสักการะก็คือความกำหนัด ความพอใจยินดีในการได้ในสิ่งนั้นแม้ว่าสิ่งนั้นจะมีค่าน้อยก็ตาม การข้องนั้น คือ นันทิราคะที่ทำให้เกิดความพินาศด้วยตัณหาราคะ แล้วถ้ามันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะพบแต่ความฉิบหายแน่นอน ตัณหาเป็นสิ่งไม่ดี แม้แต่การทำดีที่เป็นกุศลธรรมถ้าไม่ระวังให้ดีก็มีตัณหาเข้าไปติดได้ ลาภสักการะและชื่อเสียงสรรเสริญเยินยอ เปรียบเหมือนสุนัขขี้เรื้อน, เต่าติดชนัก, ปลากลืนเบ็ด,ตัวกังสฬกะซึ่งกินคูถ สายเส้นที่ทำให้ติดในตัณหาได้ คือ นันทิราคะที่ทำให้เกิดความพอใจในลาภสักการะ เหมือนพรานที่ปลูกผักเพื่อวางเหยื่อให้กวางมากิน เหมือนเราที่เกิดมาในโลกที่เป็นภพแห่งกามที่มีความสุขทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ที่เป็นเหยื่อล่อของนายพรานซึ่งคือมารผู้ใจบาปทำให้เราเสื่อมถอยในความดี กลายเป็นคนถอยคนถ่อยเสื่อมลงเพราะกับดักของมาร แล้วถ้าเรายิ่งไม่เห็นทุกข์โทษที่ซ่อนอยู่เราก็จะเพลิน หลงติดกับดักของมาร ให้มีสติแน่วแน่ในสามัญญผล ในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบให้ตั้งความเพียรเต็มที่ ให้มีเป้าหมายในชีวิตที่ไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทองเกียรติยศ แต่ให้หวังในการทำความดีเล็งไปที่สามัญญผลที่จะได้และจะไม่เป็นภัยอันตรายห่อหุ้มจิตได้ เราจะพ้นภัยในวัฏฏะได้ก็ด้วยการมีความเพียรให้มีการทำจริงแน่วแน่จริง