สูตร#1 คาวีอุปมาสูตร ว่าด้วยการอุปมาด้วยแม่โค โดยเปรียบเทียบแม่โคกับภิกษุ แม่โคเที่ยวไปตามภูเขา คิดว่าจะไปยังทิศที่ไม่เคยไป ไปกินหญ้า ไปดึ่มน้ำในเขตที่ไม่เคย กิน อาจมีอันตรายไม่ปลอดภัย เพราะเป็นโคโง่ ไม่ฉลาด ไม่รู้จักเขตที่หากิน ไม่เข้าใจที่จะเที่ยวไปบนเขาอันขรุขระ เหมือนกับภิกษุบางรูป เป็นคนโง่ ไม่ฉลาด ไม่รู้จักเขต ไม่เข้าใจ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม ไม่บรรลุ ฌาณ 1- ฌาน 4 ได้ทรงแสดงว่าหากภิกษุปฏิบัติสมาบัติ (สมาธิ 8 ระดับ) จะมีสมาธิอันหาประมาณมิได้ เจริญดีแล้ว ย่อมโน้มน้อมจิตไป เพื่อกระทำให้แจ้ง ซึ่งธรรมใดๆที่ควรกระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง


สูตร#2 อนุปทสูตร ว่าด้วยธรรมตามลำดับบท ทรงแสดงแก่ภิกษุ ทรงตรัสสรรเสริญท่านพระสารีบุตรให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า ท่านพระสารีบุตรมีความฉลาดล้ำ มีปัญญาเลิศ มากกว่าภิกษุอื่น สามารถเห็นแจ้งธรรมตามลำดับบทได้เพียงกึ่งเดือน เห็นแจ้งตามลำดับบท คือ บรรลุรูปฌาณ 4, อรูปฌาณ 4, สัญญาเวทยิตนิโรธ และความสิ้นอาสวะ


สูตร#3 นิพพานสุขสูตร ว่าด้วยนิพพานเป็นสุข ซึ่งเป็นคำที่ท่านพระสารีบุตรกล่าว แต่ท่านพระอุทายีแย้งว่า “นิพพานไม่มีเวทนา จะเป็นสุขได้อย่างไร” ท่านพระสารีบุตรย้ำว่าเป็นได้ ท่านกล่าวถึงกามคุณ 5 และสุขโสมนัสที่อาศัยกามคุณ 5 เกิดขึ้นเรียกว่า กามสุข และแสดงว่า ในฌานสมาบัติ 8 คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 แต่ละอย่างยังมีสิ่งกดดัน (อาพาธ) หมายถึง ความบีบคั้น เช่น ในปฐมฌานมีสัญญามนสิการที่ประกอบด้วยกามเป็นสิ่งกดดัน แต่ในองค์ธรรมประการที่ 9 คือ สัญญาเวทยิตนิโรธ ไม่มีสิ่งกดดันเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า นิพพานเป็นสุขได้อย่างไร


Tstamp

[02:03] ว่าด้วยการอุปมาด้วยแม่โค (คาวีอุปมาสูตร)
[23:26] ว่าด้วยธรรมตามลำดับบท (อนุปทสูตร)
[24:42] รูปฌาน ๔ และอรูปฌาน ๔
[43:48] ว่าด้วยนิพพานเป็นสุข (นิพพานสุขสูตร)