Q: ขณะนั่งสมาธิรู้สึกเคลิ้ม ลืมภาวนา ลืมลมหายใจ รู้สึกสบาย ถือว่าขาดสติหรือไม่?

A: ในการภาวนา หากเราเห็นอาการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป คือ มีสติ หากเราไม่เห็นหรือเห็นเกิดแต่ไม่เห็นดับ นั่นคือ เผลอสติ

Q: ขณะกำหนดจิตบริกรรม พุธโธ และฟังเทศน์ไปด้วย ควรกำหนดสติไว้กับอะไร?

A: สติตั้งไว้ตรงช่องทางที่เสียงจะเข้ามา (หู)/เอาจิตไว้ที่ “โสตวิญญาณ”

Q: ถ้าปฏิบัติจนถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้วไม่จำเป็นต้องปฏิบัติอีก ถูกหรือไม่?

A: ไม่ต้องปฏิบัติเพื่อหวังเอาผล เพราะพ้นได้แล้ว แต่ยังต้องปฏิบัติ รักษาศีล เพื่อดำรงอยู่ เพื่อรักษาสภาวะนี้ ดำรงอยู่ในมรรค เพื่อประกอบให้อยู่เป็นสุขในปัจจุบัน

Q: เข้า ฌาน 1  แล้วพิจารณากายนี้ ถือว่าเป็นวิตกวิจารหรือเป็นวิปัสสนาแล้ว?

A: หากพิจารณากายตนเองแล้วเห็นความไม่เที่ยง ในกายตน ถือว่าเป็นวิปัสสนา แต่หากพิจารณากายบุคคลอื่น เป็นลักษณะรูปภาพ ถือว่าเป็นวิตกวิจารณ์

Q: จะแก้ไขเรื่องตื่นนอนแล้วไม่ยอมลุก ได้อย่างไร?

A: ก่อนนอน ขณะอยู่ในอิริยาบถ นอน ให้ตั้งสติไว้ว่า “รู้สึกตัวเมื่อไหร่ จะลุกขึ้นทันที จะไม่ยินดีในการเคลิ้มหลับ จะไม่ยินดีในการนอน” แล้วน้อมจิตไปเพื่อการนอน ตั้งสติไว้ว่า “บาปอกุศลอย่าตามเราไป ผู้ที่นอนหลับอยู่” การนอนก็จะมีสติ เพราะได้ตั้งสติไว้/ทำบ่อยๆ จะค่อยพัฒนาขึ้นได้

Q: ทุกข์ของพระพุทธเจ้าคืออะไร กับทุกข์ที่เราเจอใช่ตัวเดียวกันหรือไม่?

A: ทุกข์ของพระพุทธเจ้าตอนที่เป็นโพธิสัตว์นั้นเป็นทุกข์เดียวกันกับเรา/ตอนที่ท่านเป็นพระพุทธเจ้าแล้วนั้นท่านทรงพ้นจากทุกข์แล้วเพราะท่านค้นพบทางพ้นทุกข์ ทุกข์จึงดับไป/ทุกข์ที่ท่านสอน คือความที่ทนได้ยาก ไม่เที่ยง/ทุกขเวทนา คือ ความรู้สึก/ทุกขลักษณะ คือ รวมสุขเวทนา ขันธ์ 5 รวมทุกอย่าง

Q: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เสียชีวิตไปแล้วนั้นจะไปดีหรือเปล่า?

A: จะรู้ข้อนี้ได้ต้องมี จุตูปปาตญาณ